• Welcome to งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน โรงเรียนวารินชำราบ สพม. เขต 29.
 

ข่าว:

ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่เว็บไซต์งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนวารินชำราบ

Main Menu

กรวยป่า รหัส 7-34190-001-488

เริ่มโดย นายณัฐธัญ ปทุมรัตน์, 22 มิถุนายน 2013, 10:51:32 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

นายณัฐธัญ ปทุมรัตน์

กรวยป่า
กรวยป่า
ชื่อพื้นเมือง สีเสื้อหลวง ก้วย (ภาคเหนือ) ขุนเหยิง (สกลนคร) คอแลน (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ตวย (เพชรบุรี) หมากผ่าสาม (นครพนม อุดรธานี) หมูหัน

ชื่อวิทยาศาสตร์ Casearia grewiifolia Vent.
ชื่อวงศ์  กระเบา FLACOURTIACEAE
ชื่อสกุลไม้ Casearia Jacq.   

นิเวศวิทยาและการกระจายพันธุ์
     ในประเทศไทย พบตั้งแต่ ป่าชายหาดจนถึงป่าดงดิบ ป่าละเมาะ และป่าเบญจพรรณ อาจพบกระจายทั่วไปในลักษณะไม้เบิกนำที่ดี

      ในต่างประเทศ พบที่ พม่า อินโด-ไชนา มาเลย์ เพนนินซูลาร์
ลักษณะทั่วไป

      ต้นไม้ เป็นไม้ต้น ขนาดเล็ก ผลัดใบ สูง 8 - 15 ม. ลำต้นเปลาตรง เรือนยอด เป็นพุ่มกลมหรือรูปกรวยทึบกิ่งอ่อนมีช่องระบายอากาศมากและมีขนสีน้ำตาลแดงทั่วไป เปลือกนอก สีเทาปนน้ำตาล ผิวเรียบหรือแตกสะเก็ดเล็ก ๆ เปลือกใน ค่อนข้างหนา สีน้ำตาลอ่อนอมแดง
     ใบ ใบเดี่ยว เรียงสลับออกสองข้างของกิ่ง รูปขอบขนาน หรือขอบขนานแกมรูปไข่ กว้าง 3 - 6 ซม. ยาว 8 - 13 ซม. ปลายในแหลม โคนมกว้าง เนื้อใบหนาหลังใบสีเขียวเข้มเป็นมัน ท้องใบมีขนสีเทาอ่อนนุ่ม บางทีไม่พบขน ใบอ่อน สีสนิมเหล็กจาง ๆ ใบแก่ เขียวเข้ม เส้นแขนงใบ มี 8 - 12 คู่ เส้นใบย่อยแบบเส้นขั้นบันไดเห็นชัดทางด้านท้องใบ ขอบใบหยักเป็นคลื่นมน ๆ หรือบางทีเกือบเรียบ
     ดอก เล็ก สีเขียวอ่อนหรือแกมเหลือง ออกเป็นกระจุก ๆ ตามกิ่ง ดอกเพศผู้และเมียอยู่ต่างดอกกัน ภายในต้นเดียวกัน วงกลีบรวมมี 5 กลีบ รูปงองุ้ม แต่ละกลีบไม่ติดกัน ด้านนอกขนแน่น ส่วนด้านในเกลี้ยง เกสรผู้มี 8 ดัน ไม่มีกลิ่น
     ผล ผลสด รูปกลมรี ๆ ปลายแหลมหรือมน เส้นผ่านศูนย์กลาง 2 - 2.5 ซม. ยาว 2.5 - 3 ซม. ผลสุกคล้ายผลมะไฟ เป็นกลุ่มแน่นตามกิ่ง ผลอ่อน สีเขียว เมื่อผลแก่จัด สีเหลือง แตกออกเป็น 3 กลีบ และมี 3 พู เมล็ดมีเยื่อหุ้ม สีส้มแดง จำนวนเมล็ด 3 เมล็ด
     ระยะเวลาในการออกดอกและเป็นผล ออกดอกระหว่างเดือน มีนาคม-พฤษภาคม ผลจะแก่ระหว่าง เดือน พฤษภาคม-กรกฎาคม
     การขยายพันธุ์ ปกตินิยมเพาะชำด้วยเมล็ด
ลักษณะเนื้อไม้
     เนื้อไม้แปรรูป เนื้อไม้สีน้ำตาลอ่อนเกือบขาว
การใช้ประโยชน์
     ด้านเนื้อไม้แปรรูป ใช้ทำเครื่องมือทางการเกษตร เช่น ด้ามจอบ เสียม พลั่ว มีด ขวาน ฯลฯ
       ด้านสมุนไพร ส่วนที่ใช้เป็นสมุนไพรและมีสรรพคุณ คือ 
          ราก รสเมาเบื่อ แก้ท้องร่วง แก้ตับพิการ บำรุงตับ บำรุงธาตุ แก้ริดสีดวงต่าง ๆ แก้บิดมูกเลือด
           เปลือกต้น รสเมาขื่น บำรุงธาตุ บำรุงกำลัง ขับผายลม บำรุงโลหิต เป็นยาคุมธาตุ สมานแผล แก้อุจาจาระร่วง
           ใบ รสเมาเบื่อ แก้พิษกาฬ แก้พิษอักเสบจากหัวกาฬ แก้โรคผิวหนัง แก้ริดสีดวงจมูก แก้ผดผื่นคัน รักษามะเร็งลาม
           ดอก รสเมา แก้พิษกาฬ พิษไข้ตัว
           ลูก แก้บิดปวดแบ่ง แก้เสมหะเป็นพิษ แก้ลงท้องกัดเสมหะ แก้น้ำลายเหนียว ฟอกโลหิต แก้เลือดออกตามไรฟัน
           เมล็ด รสเมาเบื่อ แก้ริดสีดวงทวาร แก้พยาธิผิวหนัง แก้โรคผิวหนัง แก้ริดสีดวงจมูก ใช้เบื่อปลา
     ข้อมูลการวิจัยที่สำคัญ

          ไม่มีรายงานการวิจัยทางเคมีและเภสัชวิทยา
     ด้านการเป็นไม้ประดับ ความน่าสนใจของไม้ต้นนี้คือ เป็นไม้ที่มีช่วงการปลูกได้กว้างขวาง มีลักษณะเป็นไม้เบิกนำที่ดี โดยเฉพาะมีรูปทรงต้นและเรือนยอดรูปกรวยหรือพุ่มกลมรี มองดูสวยโดดเด่น
http://203.114.105.84/virtual/Physicals/www.thaimedicinalplant.com/popup/gruay-pa.html
กรวยป่า
ชื่อท้องถิ่น:   กรวยป่า
ชื่อสามัญ:   กรวยป่า
ชื่อวิทยาศาสตร์:   Casearia grewiifolia Vent.
ชื่อวงศ์:   Flacourtiaceae
ลักษณะวิสัย/ประเภท:   ไม้ยืนต้น
ลักษณะพืช:   ลักษณะทั่วไป (Characteristic) :     ไม้ต้นขนาดเล็กถึง
ขนาดกลาง สูง 5-15 เมตร ผลัดใบ เรือนยอดเป็นพุ่มกลม หรือรูปกรวยทึบ ลำต้นเปลาตรง  เปลือกเรียบสีเทาหรือสี
น้ำตาลอ่อน
ใบ(Foliage) :  ใบเดี่ยว  เรียงสลับ  ใบรูปขอบชนานหรือรูปขอบขนานแกมรูปไข่ กว้าง 3-6 เซนติเมตร ยาว 8-
13 เซนติเมตร  ปลายใบแหลม โคนใบเว้าเข้า   ผิวใบด้านบนเกลี้ยง ด้านล่างมีขนอ่อนนุ่ม แผ่นใบหนา ขอบใบ จักถี่ๆ  เส้นแขนงใบข้างละ 8-12 เส้น  ก้านใบยาว 0.6-1.2 เซนติเมตร
ดอก (Flower) :    สีขาวหรือเหลืองอมเขียว   ออกเป็นช่อแบบช่อกระจุกตามกิ่งหรือซอกใบ ดอกแยกเพศอยู่ต่าง ดอกภายในต้นเดียวกัน กลีบเลี้ยง 5 กลีบ รูปงองุ้มมีขนปกคลุมด้านนอก ไม่มีกลีบดอกเกสรเพศผู้ 8 อัน ดอกบาน
เต็มที่กว้าง 0.8-1 เซนติเมตร
ผล (Fruit) :  ผลสดเเบบมีเนื้อหลายเมล็ด ทรงไข่ กว้าง 1.5-2 เซนติเมตร ยาว 2.5-5 เซนติเมตร เป็นพูตามยาว 3 พู ผิวเรียบ ผนังหนา ผลสุกสีเหลือง แก่จัดจะแตกตามรอยประสานเป็น 3 แฉก เมล็ดเป็นเหลี่ยม มีเนื้อหุ้ม สีแสด
ปริมาณที่พบ:   มาก
การขยายพันธุ์:   ใช้เมล็ด
อธิบายวิธีการเพาะ/ขยายพันธุ์:   
การใช้ประโยชน์/ส่วนที่นำไปใช้ประโยชน์:   การใช้ประโยชน์
ด้านเนื้อไม้แปรรูป ใช้ทำเครื่องมือทางการเกษตร เช่น ด้ามจอบ เสียม พลั่ว มีด ขวาน ฯลฯ
ด้านสมุนไพร ส่วนที่ใช้เป็นสมุนไพรและมีสรรพคุณ คือ
ราก รสเมาเบื่อ แก้ท้องร่วง แก้ตับพิการ บำรุงตับ บำรุงธาตุ แก้ริดสีดวงต่าง ๆ แก้บิดมูกเลือด
เปลือกต้น รสเมาขื่น บำรุงธาตุ บำรุงกำลัง ขับผายลม บำรุงโลหิต เป็นยาคุมธาตุ สมานแผล แก้อุจาจาระร่วง
ใบ รสเมาเบื่อ แก้พิษกาฬ แก้พิษอักเสบจากหัวกาฬ แก้โรคผิวหนัง แก้ริดสีดวงจมูก แก้ผดผื่นคัน รักษามะเร็งลาม
ดอก รสเมา แก้พิษกาฬ พิษไข้ตัว
ลูก แก้บิดปวดแบ่ง แก้เสมหะเป็นพิษ แก้ลงท้องกัดเสมหะ แก้น้ำลายเหนียว ฟอกโลหิต แก้เลือดออกตามไรฟัน
เมล็ด รสเมาเบื่อ แก้ริดสีดวงทวาร แก้พยาธิผิวหนัง แก้โรคผิวหนัง แก้ริดสีดวงจมูก ใช้เบื่อปลา
แหล่งที่พบ:   ชุมชนตำบลปางสวรรค์
ข้อมูลอื่นๆเพิ่มเติม:   
ฤดูกาลที่ใช้ประโยชน์ได้:   ทุกฤดูกาล
แหล่งที่มาของข้อมูล:   ชุมชนตำบลปางสวรรค์
คำช่วยค้นหา(keyword):   -
ผู้บันทึกข้อมูล:   เมฤดี คำธรรม

วันที่บันทึกข้อมูล:   6/7/2010 12:03:41 PM
วันที่แก้ไขล่าสุด:   6/17/2010 4:38:45 PM
จำนวน view:   116 ครั้ง
สถานะการตรวจสอบ:   ยังไม่ผ่านการตรวจสอบความถูกต้อง
http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=5625