• Welcome to งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน โรงเรียนวารินชำราบ สพม. เขต 29.
 

ข่าว:

โรงเรียนได้รวบรวม พืชพรรณ นานาชนิดกว่า 600 ชนิด ที่ถูกรวบรวม เรียบเรียงไว้อย่างเป็นระบบ สืบค้นได้ง่าย

Main Menu

แป๊ะตำปึง7-34190-001-278

เริ่มโดย พรพิมล มิตสีดา, 22 มิถุนายน 2013, 13:23:11 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

พรพิมล มิตสีดา

แป๊ะตำปึง  รหัส  7-34190-001-278
ชื่อทางพฤกษศาสตร์       Gynura sarmentosa DC.
ชื่ออื่น                        "จินฉี่เหมาเยี่ย"จักรนารายณ์"
วงศ์                            COMPOSITEA
ชื่อพ้อง                       Gynura divaricata DC.G. auriculata Cass., G. procumbens Merr.,G. sarmentosa DC.
ชื่ออื่นๆ                       Purple passion vine, Purple velvel plant

              มีด้วยกัน 2 ชนิด คือ ชนิดใบนุ่มเหมือนกำมะหยี่ ใบเป็นสีเขียวอ่อนเส้นใบด้านบนลึกเช่นเดียวกับกลางใบ แต่ด้านหลังใบกลับนูนขึ้น กิ่งก้านเปราะหักง่าย ส่วนอีกชนิดหนึ่งใบมีลักษณะค่อนข้างแหลม สีเขียว ประโยชน์ใช้ใบรับประทานสด ซึ่งมีกลิ่นคล้ายผลชมพู่สาแหรกขณะผลอ่อน แต่มีรสเย็น การขยายพันธุ์ใช้กิ่งปักชำ อนึ่งบางท่านบอกว่าชนิดใบยาวเรียก "จินฉี่เหมาเยี่ย" สรรพคุณ
ใช้ใบสดของแปะตำปึง รับประทานสดวันละ 5-7 ใบ ประมาณ 7 วัน รับประทานง่าย ๆ ไม่มีรสฝาดหรือขมแต่อย่างใด หรือจะรับประทานเป็นของเคียงกับลาบ ส้มตำ แหนม หรือจะผสมไปในสลัดผักก็ได้ โรคที่พืชสมุนไพรชนิดนี้มีผู้รับรองว่ารักษาหายแล้ว ได้แก่ โรคเบาหวาน, ความดันสูง-ต่ำ, หืดหอบ, ภูมิแพ้, โรคมะเร็งทุกชนิด, ริดสีดวง-ทวารหนัก, งูสวัด, โรคเกาต์ และขับนิ่ว, แผลสะเก็ดเงิน, พุพองฝีหนองทั่วไป, โรคหัวใจ, โลหิตจาง, เนื้องอกต่าง ๆ ในไต, ปวดเหงือกปวดฟัน, แผลอักเสบ, ปวดประจำเดือน, ไขมันในเส้นเลือด, ไทรอยด์, ปวดเส้นปวดหลัง, โรคกระเพาะอาหาร, ตาอักเสบ, ตาเป็นต้อ ขุ่นมัว ก็บอกแล้วไงว่าเป็นพืชสมุนไพรครอบจักรวาล
สำหรับ โรคตา ต่าง ๆ ใช้แปะตำปึงโขลกแล้วนำมาพอกที่ตาประมาณ 20-30 นาที หรือโรคเกี่ยวกับผิวหนังเช่น งูสวัด, ผิวเป็นหนองอักเสบ พุพอง ใช้แปะตำปึง
มาโขลกผสมกับน้ำตาลทรายแดง โดยอาศัยคุณสมบัติของน้ำตาลทรายแดง ช่วยในการจับแปะตำปึงไม่    ให้หลุดร่วงง่ายเท่านั้นเอง
ควรระวังเรื่องอาหารของแสลง เช่นเนื้อ, กุ้ง, หมึก    ปู, ปลาทู, ปลาร้า,  กะปิ, หน่อไม้, ข้าวเหนียว, แตงกวา, หัวผักกาด, เผือก, สาเก, เครื่องดองของเมา และถ้าสุขภาพไม่แข็งแรงควรงดน้ำชากาแฟด้วย
     
หลังจากที่ตัดกิ่งแปะตำปึง และเด็ดใบมารับประทานแล้ว จึงตัดกิ่งเป็นท่อน ๆ ยาวประมาณ 10-15 ซม. มาปักชำนำไปไว้ในที่รำไร และหมั่นรดน้ำเสมอ ประมาณ 7-10 วัน
ก็จะแตกรากเป็นต้นใหม่ แต่พันธุ์ไม้ชนิดนี้ไม่ชอบร่มมากนัก และอายุต้นจะนานเพียง 1 ปีเท่านั้น

ลักษณะทั่วไป
      พืชใบเลี้ยงคู่ ลำต้นขนาดเล็ก สูงประมาณ 1 – 3 ฟุต ลักษณะใบตัวเมียมี ใบโค้งมน ขอบใบหยัก ใบหนานุ่มคล้ายกับกำมะหยี่ จะออกดอกเป็นสีเหลือง ขนาดเล็กๆ เป็นช่อชูขึ้นตรงยอด ส่วนตัวผู้มีลักษณะใบเรียว ยาวกว่าตัวเมีย และไม่ออกดอก รสชาติของใบยาคล้ายชมพู่เพชรที่ยังไม่แก่