โมกหลวง
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Holarrhena pubescens Wall.ex G.Don
ชื่อวงศ์ : APOCYNACEAE
ชื่ออื่นๆ : โมกหลวง มูกหลวง ยางพุด
ลักษณะ :
ไม้ต้น สูงได้ถึง 15 เมตร ทุกส่วนมียางขาว ใบ เดี่ยว เรียงตรงข้าม รูปรีหรือรูปรีแกมขอบขนาน กว้าง 4-8 ซม. ยาว 5-15 ซม. ดอก สีขาว กลิ่นหอม ออกเป็นช่อ กลีบเลี้ยง 5 กลีบ ขนาดเล็ก ยาว 1.5-2 มม. มีขนทั้ง 2 ด้าน กลีบดอกเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 5 กลีบ กว้าง 4-7 มม. ยาว 1-1.5 ซม. มีขนทั้งสองด้าน ผล แห้งแตก กว้าง 3-6 มม. ยาว 20-30 ซม. เมล็ดมีขน
การกระจายพันธุ์ : พบตามป่าเต็งรัง ที่ระดับความสูงไม่เกิน 1,000 เมตร ออกดอกเดือน ก.พ.-เม.ย. ผลแก่เดือน ก.ย.-พ.ย.
ประโยชน์ :
ชาวบ้านนิยมนำดอกไปถวายพระ ยาง ใช้รักษาแผลเน่าเปื่อย ข้อมูลจาก : ไม้ต้นในสวน Tree in the Garden
http://www.qsbg.org/database/botanic_book%20full%20option/search_detail.asp?Botanic_ID=1738
โมกใหญ่
ชื่ออื่น : โมกหลวง
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Holarrhena pubescens Wall.ex G.Don
ชื่อวงศ์ : วงศ์โมก (APOCYNACEAE)
ช่วงที่ดอกหอม : ตลอดวัน
ช่วงที่ดอกบาน : มีนาคม - เมษายน
ลักษณะ : ไม้ต้นขนาดเล็ก สูง 5 - 10 เมตร
มีเปลือกต้นสีน้ำตาลอ่อน ทุกส่วนมียางสีขาว
ใบเดี่ยวออกตรงข้าม รูปไข่ ปลายเรียวแหลม
หรือเป็นติ่งแหลม ผิวใบด้านล่างมีขนอ่อนนุ่ม
ดอกออกเป็นช่อที่ปลายกิ่งสีขาว มีดอกย่อย
จำนวนมาก บานเกือบพร้อมกันทั้งช่อ
กลีบดอกมี 5 กลีบ เวียนเรียงขวา
การขยายพันธุ์ : เพาะเมล็ด ปลูกลงแปลงกลางแจ้ง
ต้องการความชื้นน้อย
การใช้ประโยชน์ : ปลูกเป็นไม้ประดับ เปลือกต้นแก้บิดแก้เสมหะ
http://www.nrru.ac.th/web/plant_flower/body/37.htm
ต้นโมกหลวง หรือ โมกใหญ่ Holarrhena pubescens
(1/1)
Montela_Hoya:
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Holarrhena pubescens Wall. ex G. Don
วงศ์ : APOCYNACEAE
ชื่อ อื่น : ซอทึ, พอแก, ส่าตึ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน); พุด (กาญจนบุรี); พุทธรักษา (เพชรบุรี); มูกมันน้อย, มูกมันหลวง, มูกหลวง, โมกเขา, โมกทุ่ง, โมกหลวง (ภาคเหนือ); โมกใหญ่ (ภาคกลาง); ยางพูด (เลย); หนามเนื้อ (เงี้ยว-ภาคเหนือ)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้ต้นขนาดเล็ก สูง 5-10 เมตร ทุกส่วนของต้นมีน้ำยางสีขาว ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม กว้าง 3.5-14 ซม. ยาว 7-30 ซม. ก้านใบยาว 0.4-1.2 ซม. แผ่นใบบางคล้ายกระดาษ รูปรีหรือขอบขนาน โคนใบป้านหรือรูปลิ่ม ปลายเรียวแหลม หรือเป็นติ่งแหลม ขอบเรียบ ผิวใบด้านบนและด้านล่างเป็นมัน เกลี้ยง หรือมีขนสั้นนุ่ม ดอกช่อแบบช่อกระจุก ดอกย่อยมีก้าน ดอกย่อยที่ด้านข้างเท่ากัน มีขนาดเล็กกว่าดอกย่อยที่ตรงกลางช่อ ช่อดอกยาว 4-14 ซม. ก้านช่อยาว 0.9-3.5 ซม. หรือไม่มีก้านช่อ ทุกส่วนเกลี้ยง หรือมีขนสั้นนุ่ม ดอกย่อยประกอบด้วย ก้านดอกย่อยสั้นมากหรือไม่มีก้าน ก้านดอกย่อย วงกลีบเลี้ยงเชื่อมติดกัน ปลายแยก 5 แฉก ปลายของแต่ลุแฉกแหลม วงกลีบดอกเชื่อมกันเป็นรูปดอกเข็ม ปลายแยก 5 แฉก กว้างประมาณ 0.4-0.8 ซม. ยาวประมาณ 0.7-2.3 ซม. สีขาว รูปขอบขนาน ปลายมน เกสรเพศจำนวน 5 อัน แยกกัน เกสรเพศเมีย 1 อัน อยู่เหนือวงกลีบ ผลแตกแนวเดียว รูปแถบเรียวยาว กว้างประมาณ 0.5 ซม. ยาว 37-45 ซม. ก้านผลยาว 1.6-2.5 ซม. เมล็ดจำนวนมาก มีปีกบาง
ส่วนที่ใช้ : เปลือกต้น ใบ ผล เมล็ดใน กระพี้ แก่น ราก
สรรพคุณ :
เปลือกต้น - แก้บิด แก้ไข้พิษ
ใบ - ขับไส้เดือนในท้อง
ผล - ขับโลหิต เมล็ดใน - แก้ไข้ กระพี้ - ฟอกโลหิต