งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน โรงเรียนวารินชำราบ สพม. เขต 29

ทะเบียนพรรณไม้งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน => ไม้ล้มลุก => หัวข้อที่ตั้งโดย: ชนะชัย พิมพ์วงศ์ เมื่อ 22 มิถุนายน 2013, 11:13:00 ก่อนเที่ยง

ชื่อ: ชะพลู ช้าพลู ผักอีเลิด รหัส 7-34190-001-476
โดย: ชนะชัย พิมพ์วงศ์ เมื่อ 22 มิถุนายน 2013, 11:13:00 ก่อนเที่ยง
ชะพลู ช้าพลู ผักอีเลิด รหัส 7-34190-001-476
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Piper sarmentosum Roxb.
วงศ์    : Piperaceae
ชื่ออื่น/ชื่อถิ่น   ช้าพลู (ภาคกลาง) ชะพลูเถา เฌอภลู (สุรินทร์) ผักปูนา ผักปูลิง ผักปูริง ปูลิงนก ผักพลูนก ผักอีไร ผักอีเลิศ (ภาคอีสาน) พลูลิง (ภาคเหนือ) เย่เท้ย (แม่ฮ่องสอน) พลูนก ผักปูนก (พายัพ) พลูลิงนก (เชียงใหม่) นมวา (ใต้)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์   เป็นพืชล้มลุกขนาดเล็ก มีลักษณะเป็นเถาเลื้อยอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ลำต้นแบ่งเป็นข้อโดยตามข้อจะมีรากช่วยในการยึดเกาะใบมีสีเขียวสดเป็นมัน ฐานใบกว้าง ปลายใบแหลมคล้ายรูปหัวใจ เห็นเส้นใบชัดเจน ใบมีกลิ่นฉุน รสเผ็ดเล็กน้อย ดอกสีขาวมีขนาดเล็กออกเป็นช่ออัดกันรูปทรงกระบอกยาว
แหล่งที่พบ  ปลูกตามบ้านทั่วไปหรือตามที่ชื้นแฉะริมน้ำ
สารที่พบ    ชะพูลมีน้ำมันหอมระเหยที่ทำให้เกิดกลิ่นเผ็ดฉุน และมีคุณค่าทางสารอาหารที่สำคัญ คือ มีแคลเซียมและสารเบต้า-แคโรทีนในปริมาณสูงชะพูลมีน้ำมันหอมระเหยที่ทำให้เกิดกลิ่นเผ็ดฉุนและมีคุณค่าทางสารอาหารที่สำคัญคือมีแคลเซียมและสารเบต้า-แคโรทีนในปริมาณสูงในส่วนของงานวิจัยเป็นการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมหิดลโดยศึกษาฤทธิ์การลดน้ำตาลในเลือดของสารสกัดชะพล(ใช้น้ำสกัดเอาสารสำคัญของชะพลูทั้งต้น)โดยใช้หนูทดลองผู้ทดลองแบ่งหนูออกเป็น2กลุ่ม หนูกลุ่มแรกถูกเหนี่ยวนำให้เป็นเบาหวานหนูกลุ่มที่สองเป็นหนูปกติ แล้วฉีดสารสกัดของชะพลูเข้าไปในหนูทั้งสองกลุ่ม วัดระดับน้ำตาลในเลือดเมื่อฉีดเข้าไปครั้งแรกพบว่าสารสกัดชะพลูในขนาด 0.125 และ 0.25 กรัมต่อน้ำหนักของหนู 1 กิโลกรัม ไม่ช่วยลดระดับน้ำตาลของหนูกลุ่มที่เป็นเบาหวานแต่เมื่อให้สารสกัดต่อไปอีก 7 วันพบว่าระดับน้ำตาลในเลือดของหนูกลุ่มที่เป็นเบาหวานลดลงซึ่งผู้ทดลองก็ได้นำยาแผนปัจจุบัน คือ ไกลเบนคลาไมด์ (Glibenclamide) มาทดสอบกับหนูทั้งสองกลุ่มเช่นกันพบว่าได้ผลเช่นเดียวกับสารสกัดชะพลู
ในใบชะพลู 100 กรัม ให้พลังงานกับร่างกาย 101 กิโลแคลอรี่ ประกอบด้วย
-เส้นใย 4.6 กรัม
-แคลเซียม 601 มิลลิกรัม
-ฟอสฟอรัส 30 มิลลิกรัม
-เหล็ก 7.6 มิลลิกรัม
-วิตามินบีหนึ่ง 0.13 มิลลิกรัม
-วิตามินบีสอง 0.11 มิลลิกรัม
-ไนอาซิน 3.4 มิลลิกรัม
-วิตามินซี 22 มิลลิกรัม
-โปรตีน 5.4 กรัม
-คาร์โบไฮเดรต 14.2 กรัม
-และให้เบต้า-แคโรทีนสูงถึง 414.45 ไมโครกรัมเทียบหน่วยเรตินัล
ข้อควรระวัง ไม่ควรรับประทานใบชะพลูมากเกินไป เพราะจะทำให้เกิดอาการเวียนศรีษะ และทำให้มีการสะสมของสารออกซาเลท (Oxalate)ในร่างกายสูง ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดโรคนิ่วในไต
สรรพคุณ:
ใบ: รสเผ็ดร้อน เจริญอาหาร ขับเสมหะ ทำเสมหะให้งวด ทำให้เลือดลมซ่าน
ดอก (ลูก): รสเผ็ดร้อน แก้ศอเสมหะ ทำให้เสมหะแห้ง ช่วยย่อยอาหาร ขับลมในลำไส้
ราก: รสเผ็ดร้อน แก้คูถเสมหะ ขับเสมหะให้ตกทางทวารหนัก บำรุงธาตุ ขับลมในลำไส้ ทำให้เสมหะแห้ง
ต้น: รสเผ็ดร้อน แก้เสมหะในทรวงอก ขับเสมหะ
ส่วนที่ใช้ประกอบอาหาร   ใบสดมีรสเผ็ดซ่าลวกเป็นผักจิ้มหรือรับประทานสดโดยใช้เป็นใบห่อเมี่ยงคำ เมี่ยงปลาทู รองก้นกระทงห่อหมก ซอยใส่ข้าวยำหรือนำไปชุบแป้งทอดเป็นกับแกล้มก็ได้ นอกจากนี้ใบอ่อนนำไปใส่ในแกงกะทิต่าง ๆ เช่นคั่วไก่
วิธีปลูก   ขยายพันธ์โดยปักชำในดินร่วนซุย รดน้ำให้ชุ่มในระยะที่ต้นกล้ายังไม่แข็งแรง ไม่ควรให้โดนแดดมากนัก