ชะอม 7-34190-001-129
ชื่อ "ชะอม"
วงศ์ "LEGUMINOSAE"
ชื่อวิทยาศาสตร์ "AcaciaPennata(L.)Willd.Subsp.
InsuavisNielsen"
ชื่อพื้นเมือง "ผักหละ(เหนือ),ฝ่าเซ้งดู่,พูซูเด๊าะ
(กระเหรี่ยง,แม่ฮ่องสอน)โพซุยโดะ(กระเหรี่ยง,
กำแพงเพชร),อม(ใต้),ผ้กขา(อุดรธานี,อีสาน),
ผักหล๊ะ(ไทยยอง
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ชะอมเป็นไม้พุ่มขนาดย่อมแต่เคยมีพบชะอมในป่าลักษณะเป็นต้นไม้ใหญ่วัดเส้นรอบวงของลำต้นได้1.2เมตร ไม้ชะอมที่ปลูกตามบ้านจะพบในลักษณะไม้พุ่มและเจ้าของมักตัแต่งกิ่งเพื่อให้ออกยอดไม่สู่เกินไปจะได้เก็บยอด ได้สะดวกตามลำต้นและกิ่งก้านมีหนามแหลมใบเป็นใบประกอบขนาดเล็กมีก้านใบแยกเป็นใบอยู่2 ทางลักษณะ คล้ายใบกระถินหรือใบส้มป่อยใบอ่อนมีกลิ่นฉุนคล้ายกลิ่นลูกสะตอใบเรียงแบบสลับใบย่อยออกตรงข้ามกัน ใบย่อรูปรีมีประมาณ13-28คู่ขอบใบเรียบปลายใบแหลมดอกออกที่ซอกใบสีขาวหรือขาวนวลดอกขนาด เล็กและเห็นชัดเฉพาะเกสรตัวผู้ที่เป็นฝอยๆ
ประโยชน์ทางยา
รากของชะอมสรรพคุณแก้ท้องเฟ้อขับลมในลำไส้แก้อาการปวดเสียวในท้องได้ดี รากใช้ฝนกับน้ำ หรือเหล้าขาว ขับลมในลำไส้และลมในกระเพาะอาหาร ให้ผายลมออกมาแก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ เรอเหม็นเปรี้ยวแก้ปวดบวม ปวดแสบ ปวดร้อนประโยชน์ทางอาหาร
ส่วนที่เป็นผัก/ฤดูกาล"ยอดอ่อนใบอ่อน"เป็นไม้ที่ออกยอดทั้งปีแต่จะออกมากในฤดูฝนชาวเหนือนิยมรับ ประทานยอดชะอมหน้าแล้งเพราะผักชะอมหน้าฝนจะมีรสเปรี้ยวกลิ่นฉุนบ้างครั้งทำให้ปวดท้อง การปรุงอาหารชะอมเป็นผักที่รับประทานได้ในทุกภาคของเมืองไทยวิธีการปรุงเป็นอาหารคือรบประทาน
เป็นผักจิ้มโดยการลวกหรือนึ่งให้สุกหรือใช้ยอดอ่อนใบอ่อนเด็ดเป็นชิ้นสั้นๆแล้วชุบกับไข่ทอดรับประทาน ร่วมกับน้ำพริกกะปิชาวเหนือรับประทานร่วมกันส้มตำมะม่วงตำส้มโอนอกจากนี้ชาวเหนือและชาวอีสาน ยังนิยมนำไปปรุงเป็นแกงเชนชาวอีสานมักนำไปแกงรวมกับปลาไก่เนื้อกบเขียดต้มเป็นอ่อมหรือแกงแกง ลาวและแกงแคของชาวเหนือเป็นต้น