งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน โรงเรียนวารินชำราบ สพม. อบอจ.

          ไม้พุ่ม อยู่กลางแจ้งสูง 1.5  เมตร  ทรงพุ่มรูปกลม กว้าง 1.5 เมตร ลำต้นเหนือดิน  ตั้งตรงเองได้  ผิวเรียบ เห็นข้อปล้องชัดเจน  ลำต้นอ่อนสีน้ำตาลแดง  ลำต้นแก่สีน้ำตาล  ทุกส่วนมียางสีขาวขุ่น  ใบเดี่ยว มีทั้งเรียงตรงข้ามและเรียงสลับรูปรี รูปไข่ หรือรูปไข่กลับ กว้าง 1.5-4 ซม. ยาว 4-12 ซม. ปลายแหลม โคนสอบ ขอบจักฟันเลื่อย แผ่นใบด้านบนสีเขียวเข้มเป็นมัน ด้านล่างสีม่วงแดงหรือม่วงน้ำตาล เส้นแขนงใบข้างละ 7-12 เส้น ก้านใบยาว 0.5-1.5 ซม.   ดอกแยกเพศ อยู่ต่างต้น ออกตามง่ามใบ ข้างใบ หรือปลายยอด ยาว 1-2 ซม. ช่อดอกเพศผู้มีดอกเล็กๆ จำนวนมาก โคนก้านดอกมีใบประดับเล็กๆ ก้านดอกสั้น กลีบเลี้ยง 3 กลีบ เล็กมาก เกสรเพศผู้เล็กมาก มี 3 อัน ช่อดอกเพศเมียสั้นกว่าช่อดอกเพศผู้และมีดอกเล็กๆ 3-6 ดอก ก้านดอกยาว 2-5 มม. โคนก้านดอกมีใบประดับเล็กๆ และมีต่อมเล็กๆ สีเหลือง กลีบเลี้ยงเล็ก มี 3 กลีบ รูปไข่ รังไข่เล็ก สีเขียวอมชมพู มี 3 ช่อง ก้านเกสรเพศเมียมี 3 อัน ผลเล็ก ค่อนข้างกลม มี 3 พู สีแดง

          ใบ  -   ขับน้ำคาวปลาหลังคลอด เป็นยาขับเลือดเน่าสำหรับสตรีในเรือนไฟ   ยางจากต้น - เป็นพิษ ใช้เบื่อปลา  วิธีใช้ :  นำใบมาตำกับสุรา คั้นเอาน้ำรับประทาน




   

สรุปลักษณะและข้อมูลพรรณไม้
(สรุปลักษณะและข้อมูลพรรณไม้ ตั้งแต่หน้า 2-7 และข้อมูลพื้นบ้านหน้า 1 ในลักษณะเรียงความบรรยายพรรณไม้ )
ชื่อพันธุ์ไม้   แก้ว   รหัสพรรณไม้ 7-34190-001-037
          ไม้พุ่ม อยู่กลางแจ้ง สูง 1.5 เมตร ทรงพุ่มรูปกลมทึบ กว้าง 1.8 เมตร ลำต้นเหนือดิน ตั้งตรงเองได้  ผิวแตกเป็นร่องตามยาว  เห็นข้อปล้องไม่ชัดเจน  ลำต้นอ่อนสีเขียวอ่อน  ต้นแก่สีขาวเทา  ใบประกอบแบบขนนกปลายคี่ เรียงสลับ  ใบย่อย 5-9 ใบกว้าง1-3 เซนติเมตร ยาว 2-7 เซนติเมตร   เรียงสลับกันจากเล็กไปหาใหญ่ สีเขียวเข้มเป็นมันใบย่อยที่ปลายก้านใบรูปไข่ รูปรี หรือรูปไข่กลับ ปลายแหลม โคนแหลมหรือสอบ ขอบเป็นคลื่นหรือหยักมนตื้นๆ โคนใบเบี้ยวเล็กน้อย   ดอกช่อกระจุกออกตามซอกใบสีขาว กลิ่นหอม  สีขาว กลิ่นหอม   กลีบเลี้ยง 5 กลีบ   กลีบเลี้ยง ขนาดเล็ก ปลายมน กลีบดอกรูปขอบขนานแกมรูปไข่กลับ ยาวประมาณ1.2 ซม. เรียงซ้อนเหลื่อม ฐานรองดอกรูปวงแหวน เกสรเพศผู้ 10 อัน ยาวไม่เท่ากัน ยาวประมาณกึ่งหนึ่งของกลีบดอก ก้านเกสรเพศผู้แบน รังไข่ติดเหนือวงกลีบ ก้านเกสรเพศเมียหนา ยาวประมาณ 0.7 ซม. ยอดเกสรรูปโล่ห์ ร่วงง่าย ดอกบานเต็มที่กว้าง 2-2.5 เซนติเมตร  ผลเดี่ยวรูปรีหรือรูปไข่ กว้าง 5-8 มม. ยาวประมาณ 1 ซม. ผลแก่สีแดงอมส้ม    เมล็ด รูปไข่ มีขนหนาและเหนียวหุ้มโดยรอบเมล็ด

ใบ ใช้ปรุงเป็นยาขับระดู และยาระบายลมแก้จุกเสียดแน่นเฟ้อ

ไม้ต้น  อยู่กลางแจ้ง  สูง  13  เมตร  ทรงพุ่มรูปไข่  กว้าง  10  เมตร  ลำต้นเหนือดิน ตั้งตรงได้เอง  ไม้ต้น สูง 15 เมตร เปลือกต้นเรียบ สีน้ำตาล พอต้นแก่จะแตกเป็นร่องลึกตามยาว  ผิวหยาบ  ขรุขระ เห็นข้อปล้องไม่ชัดเจน  ต้นอ่อนสีเขียวอ่อนปนน้ำตาลอ่อน  ต้นแก่สีน้ำตาล ไม่มียาง  ใบเดี่ยวออกตรงกันข้าม ใบอ่อนสีเขียวอ่อน  ใบแก่สีเขียวเข้มเป็นมัน   รูปมนขนาดกว้าง 2.5 - 3.5 เซนติเมตร ยาว 8 - 11 เซนติเมตร ปลายใบแหลมหรือยาวเรียว ฐานใบแหลม โคนมน  ขอบใบเรียบ ดอกช่อออกตามซอกใบเริ่มบานเป็นสีขาว เมื่อบานเต็มที่เป็นสีเหลืองอมส้ม  กลีบเลี้ยงติดกัน 5 กลีบ สีเขียวกลีบดอกโคนเชื่อมติดกันเป็นหลอดสั้น ปลายแยกเป็น 5 แฉก ปลายแฉกแหลม เกสรเพศผู้ยาวติดกับกลีบดอก 5 อันสีเหลือง  เกสรเพศเมียยาวมี 1 อันสีเหลืองอมเขียว  ผลแห้งกลม ผิวเรียบเป็นมัน ผลอ่อนสีเขียว พอสุกเป็นสีแดง เมล็ดเล็ก 1 เมล็ดสีน้ำตาลไหม้ 

ประโยชน์ได้แก่ เนื้อไม้สีเหลืองอ่อน เสี้ยนตรง เนื้อละเอียด เหนียว แข็ง ทนทาน ใช้ในการก่อสร้าง นิยมใช้ทำเสาเรือน แก่นมีรสฝาดใช้เข้ายาบำรุงธาตุ รสมัน เฝื่อน ฝาดขม บำรุงไขมันในร่างกาย บำรุงธาตุ เป็นยาอายุวัฒนะ แก้ไข้จับสั่น แก้หืดไอ ริดสีดวง ท้องมานลงท้อง มูกเลือด แน่นหน้าอก บำรุงม้าม แก้เลือดพิการ ขับลม
ปลูกเป็นไม้ประดับ