• Welcome to งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน โรงเรียนวารินชำราบ สพม. เขต 29.
 

ข่าว:

โรงเรียนได้รวบรวม พืชพรรณ นานาชนิดกว่า 600 ชนิด ที่ถูกรวบรวม เรียบเรียงไว้อย่างเป็นระบบ สืบค้นได้ง่าย

Main Menu
Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - นิติพล หล้าสิงห์

#1
ไม้เลื้อย / เรด้า หมวกเจ๊ก รหัส 7-34190-001-047
22 มิถุนายน 2013, 15:18:08 หลังเที่ยง
เรด้า หมวกเจ๊ก รหัส 7-34190-001-047 

ชื่อวิทยาศาสร์ : Holmskioldia Sanguinea. Retz.

ตระกูล    :    LAMIACEAE

ชื่อสามัญ    : Chinese Hat Plant, Cup and Sauce Plant. Parasol Flower

ลักษณะทั่วไป
-หมวกจีนเป็นพันธุ์ไม้ที่ออกดอกในช่วงเดือนกันยายน - ธันวาคม ของทุกปี

ต้น
-หมวกจีนเป็นไม้กึ่งต้นกึ่งเลื้อย หรือไม้รอเลื้อยแบบเดียวกับต้นเฟื่องฟ้า ลำต้นและกิ่งก้านเป็นลำสี่เหลี่ยม มีความสูงประมาณ 30 ฟุต

ใบ
-หมวกจีนเป็นไม้เดี่ยว ออกใบเป็นคู่ตรงข้ามกันตามข้อต้น ลักษณะใบเป็นทรงรีรูปใบพลูโคนใบมน ปลายใบเป็นติ่งแหลมยาว ริมใบเป็นจักเล็กน้อย ใบจะมีความยาวประมาณ 4 นิ้ว มีก้านใบสั้นประมาณ 2 เซนติเมตร

ดอก
-เมื่อยามหมวกจีนออกดอกจะมีสีสันราวกันต้นไม้แฟนซี ดอกจะสะพรั่งไปทั้งต้น ดอกจะมีสีเหลือง สีส้ม สีแดง ไล่จากสีอ่อนไปหาสีแก่ลักษณะของดอกที่มองเห็นโดยรวม จะเห็นเป็น แผ่นกลมทรงหมวกจีน ซึ่งเป็นใบประดับของหมวกจีนนั่นเอง และหากจับดูก็จะรู้สึกคล้ายกับ ว่าเป็นวัสดุที่ทำด้วยหนังหรือแผ่นยางอ่อน ๆ อะไรทำนองนั้น และยังสามารถทนแดดทนลม และทนต่อการกระทบกระทั่งได้เป็นอย่างดี หมวกจีนจะออกดอกเป็นช่อตามข้อต้นโคนก้านใบและปลายกิ่งส่วนดอกแท้ของดอกจีนนั้น จะอยู่ส่วนกลางของใบประดับ มีลักษณะรูปร่างคล้ายแตรฮอร์นยื่นออกมาจากข้างใน และมีเกสรสีเหลืองยาวพ้นปากแตรออกมาอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งมีขนาดความยาวโดยประมาณ 1 เซนติเมตรเศษ เมื่อแก่ดอกก็หลุดออกจากใบประดับ พร้อมกับเกิดตุ่มเป็นเมล็ดกลม ๆ ติตอยู่กลางหมวกจีนแทนดอก



#2
กระบือเจ็ดตัวหรือลิ้นกระบือ รหัส 7-34190-001-039 
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Excoecaria cochinchinensis Lour.
var. cochinchinensis
ชื่อวงศ์ : EUPHORBIACEAE         
ชื่อสามัญ : Picara
ชื่อพื้นเมือง :   กะเบือ   ใบท้องแดง   กระบือเจ็ดตัว กำลังกระบือ
ชนิดพืช [Plant Type] : ไม้พุ่ม
ขนาด [Size] : สูง 0.5-1.5 เมตร
สีดอก [Flower Color] : สีเหลืองอมเขียว
ฤดูที่ดอกบาน [Bloom Time] : ฤดูฝน
อัตราการเจริญเติบโต [Growth Rate] : เร็ว
ลักษณะนิสัย [Habitat] : ขึ้นได้ในดินทั่วไป
ความชื้น [Moisture] : ปานกลาง-สูงแสง [Light] : แดดเต็มวัน-รำไร
ลักษณะทั่วไป (Characteristic) : ไม้พุ่มขนาดเล็ก ลำต้นสีเขียวอมม่วงแดง แตกกิ่งก้านเป็นพุ่มแน่นทึบ
ใบ(Foliage) : ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม ใบรูปรีหรือรูปไข่ กว้าง 2-4.5 เซนติเมตร ยาว 4-13 เซนติเมตร ปลายใบแหลม   โคนใบสอบ   ขอบจักฟันซี่เกือบเรียบ ผิวใบด้านบนสีเขียวเข้มเป็นมัน ผิวใบด้านล่างสีม่วงแดงหรือม่วงน้ำตาล
ดอก (Flower) : สีเหลืองอมเขียว ออกเป็นช่อแบบช่อกระจุกตามซอกใบที่ปลายกิ่ง ช่อดอกยาว 1- 2 เซนติเมตรดอกแยกเพศอยู่ต่างต้น ช่อดอกเพศผู้มีดอกเล็กๆจำนวนมาก ดอกเพศเมียสั้นกว่าช่อดอกเพศผู้และมีต่อมเล็ก ๆ กลีบดอก 3 กลีบ
ผล (Fruit) : ผลแห้งแตก ค่อนข้างกลม มีขนาดเล็ก มี 3 พูการใช้งานด้านภูมิทัศน์ (Landscape Used) : ปลูกเป็นกลุ่มหรือในแปลงประดับสวนทั่วไปทั้งสภาพแสงมากและน้อย เป็นไม้พุ่มที่นิยมใช้กันมาก
ประโยชน์ :  ใบใช้ขับน้ำคาวปลาหลังการคลอด
#3
ไม้ต้น / ลีลาวดี/ลั่นทม รหัส 7-34190-001-038
22 มิถุนายน 2013, 15:08:45 หลังเที่ยง
ลีลาวดี/ลั่นทม  รหัส 7-34190-001-038  
ลั่นทม   (Lanthom)  Temple tree , Pagoda tree , Frangipani
ชื่อวิทยาศาสตร์   Plumeria acuminata Art.
SymP. actifolia Poir. , P. rubra Linn.var.Actifolia Bailey.
วงศ์   APOCYNACEAE
ชื่ออื่นๆ กะเหรี่ยง กาญจนบุรี : จงป่า (Chong-pa)
ภาคเหนือ : จำปาลาว (Champa-lao)อีสาน : จำปาขาว (Champa-Khao)เขมร : จำไป (Cham-pai)ภาคใต้ : จำปาขอม (Champa-khom)ยะลา : ไม้จีน (Mai-Chin)มลายู-นราธิวาส : มอยอ (Mo-yo)
ถิ่นกำเนิด    เม็กซิโก ฟิลิปปินส์ อินเดีย
ลักษณะทั่วไป (Characteristic) :   ไม้ต้นขนาดเล็ก  ผลัดใบ เรือนยอดรูปไข่หรือรูปร่ม แผ่กว้าง เปลือกสีน้ำตาล
ปนเทา ทุกส่วนของต้นมีน้ำยางสีขาว
ใบ (Foliage) :  ใบเดี่ยว เรียงเวียนสลับ รูปใบหอกป้อมสั้นกว่าลั่นทมขาว กว้าง 5-8 เซนติเมตร ยาว 20- 30 เซนติเมตร ปลายใบมน โคนใบมนหรือสอบ แผ่นใบหนา ผิวใบด้านบนสีเขียวเป็นมันด้านล่างมีขน
ดอก (Flower) : สีแดง หรือมีหลายสีในดอกเดียวกัน  มีกลิ่นหอม  ออกเป็นช่อแบบช่อกระจุกที่ซอกใบบริเวณ
ปลายกิ่ง  ช่อละ 8-16 ดอก กลีบดอกมีทั้งที่ซ้อนเหลื่อมและไม่ซ้อนเหลื่อมกัน โคนเชื่อมติดกันเป็นหลอด ภาย
ในมีขน ปลายแยกเป็น 5 แฉก   ดอกบานเต็มที่กว้าง 6-8 เซนติเมตร
ผล (Fruit) :  ผลแห้งแตก  เป็นฝักคู่ กว้าง 2-3 เซนติเมตร ยาวประมาณ 20 เซนติเมตร  มีเมล็ดจำนวนมาก  แบน มีปีกสีขาว
สรรพคุณและส่วนที่นำมาใช้เป็นยา
ยางและแก่น-ใช้เป็นยาถ่ายพิษทั้งปวง ถ่ายเสมหะและโลหิต แก้กามโรค แก้ปวดฟัน
ใบ-ลนไฟให้ร้อนพอพอกแก้ปวดบวม ชงน้ำร้อนใช้รักษาหิด
เนื้อไม้-แก้ไอราก-เป็นยาถ่าย และทำให้แท้งได้เปลือกราก-ใช้เป็นยาถ่าย แก้โรคข้ออักเสบการใช้งานด้านภูมิทัศน์ (Landscape Used) :    ทรงพุ่มสวย  ดอกสวยมีกลิ่นหอม  ปลูกประดับในที่สาธารณะ วัดสถานที่ราชการ ริมทะเล รีสอร์ท ทนแล้ง
ประโยชน์ :  เปลือกต้น  แก้ไข้ ยาถ่ายขับระดู แก้ปวดฟัน แก้คัน เนื้อไม้ แก้ไอ ขับพยาธิ แก่น คุมกำเนิด  ถ่ายพิษแก้ผิวหนัง ใบ แก้บาดทะยัก แก้ปวดบวม รักษาหืด
#4
ไม้ล้มลุก / ลิ้นมังกร รหัส 7-34190-001-212
22 มิถุนายน 2013, 15:00:38 หลังเที่ยง
212     ลิ้นมังกร
ชื่อวิทยาศาสตร์       :   Sauropus changiana S.Y.Hu
ชื่ออื่น ๆ                :    เหล่งหลี่เฮียะ, เหล่งจิเฮี้ย(จีน-แต้จิ๋ว)   ,Dragon's Tongue
วงศ์                    :    EUPHORBIACEAE
ลักษณะทั่วไป        :         
ต้น   :  เป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดเล็ก  ลำต้นจะตั้งตรงและมีขนสั้น ๆ ปกคลุมอยู่  สูงประมาณ  1-1.5  ฟุต
ใบ   :  เป็นไม้ใบเดี่ยว  ออกสลับกันไปตามข้อต้นลักษณะของใบเป็นรูปมนรี  ปลายมน  โคนใบสอบแหลมเข้าหาก้านใบ  ขอบใบเรียบ  หลังใบสีเขียวเข้ม  ท้องใบสีเขียวนวล
ดอก :  ออกเป็นช่ออยู่ตามง่ามใบ  ซึ่งตัวดอกจะเรียงติดกันเป็นแถวสั้น ๆ  คล้ายช่อดอก  แต่จะแยกออกเป็นดอกเพศผู้และเมีย  มีสีแดงม่วง
ผล :  จะถูกกลีบเลี้ยงที่ขยายตัวหุ้มเอาไว้  ลักษณะของผลคล้ายกับเม็ดถั่ว  มีก้านสั้น ๆ
สรรพคุณ    :   ใบ     จะต้องเก็บจากต้นที่มีการเจริญเติบโตอย่างเต็มที่แล้วซึ่งจะมีรสขม  แก้ไอแห้ง ๆ  เจ็บคอ  หอบหืด  บำรุงปอด  ไอเป็นเลือดเสียงแหบแห้ง  และรักษาโรคที่ติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจส่วนบน  โดยใช้ใบแห้ง  10-30  กรัมแต่ใบสดใช้  7-8  กรัม  นำมาต้มใช้รักษาโรค
ดอก  แก้กระอักเลือด  และไอเป็นเลือด  ใช้ดอกสดต้มน้ำกิน
ตำรับยา   :  1 ไอเป็นเลือด  กระอักเลือด  ใช้ใบสด  10-15  กรัม. ต้มกับน้ำทานหรือผสมกับเนื้อหมู(สัน)ต้มกับน้ำแกงกิน
                 2.  ไอมีเสลดเหนียว  หรือไอแห้ง ๆใช้ใบสด 7-8  ใบกับผลอินทผลัม  4  ผลต้มกับน้ำทาน หรือถ้าเป็นใบแห้งให้ใช้ประมาณ  15  กรัม  ต้มผสมกับเนื้อหมูแล้วทานแค่น้ำ
                 3. หลอดลมอักเสบ  หอบหืดหรือโรคติดเชื้อในทางเดินหายใจให้ใช้ใบสด  7-8  ใบหรือแห้ง  15  กรัมต้มน้ำทาน
หมายเหตุ  :  พรรณพืชชนิดนี้มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียได้บางชนิด
ลิ้นมังกรสั้น
ชื่อสามัญ Snake plant
ชื่อวิทยาศาสตร์ Sansevieria trifasciata "Hohnii"
#5
ไม้พุ่ม / เชอรีสเปน รหัส 7-34190-001-469
22 มิถุนายน 2013, 13:33:35 หลังเที่ยง
เชอรีสเปน รหัส 7-34190-001-469
ชื่อสามัญ : Barbados Cherry, Acerola, Antilles cherry, cereso, cerezo, escobillo, health tree, huesito, Puerto Rican cherry, West Indian cherry
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Malpighia glabra L.
ชื่อวงศ์ : MALPIGHIACEAE
ชื่ออื่น - ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นไม้พุ่มแตกกิ่งก้าน ส่วนใหญ่จะปลูกเป็น ไม้ประดับ ใบ เป็นใบเดี่ยว แผ่นค่อนข้างกลม ปลายใบ แหลม ใบด้านบนสีแก่ ด้านท้องใบสีอ่อน
ดอก กลีบดอกหยักสวยชมพูเข้ม
ผล รูปร่างกลมห้อยลง เมื่อยังดิบผิวผลสีเขียว อ่อน เมื่อสุกเปลี่ยนเป็นสีแดง ผลนิ่ม มีเมล็ด แข็ง ๆ 1 เมล็ด
คุณค่าทาง โภชนาการ เนื้อผลสุก มีวิตามินซีสูงสุด มีถึง 2000 มงก. ในอาหารส่วนที่กินได้ 100 กรับ มีวิตามินเอ ธาตุแคลเซียม คาร์โบไฮเดรต กรดอินทรีย์ และอื่น ๆ
ใช้เป็นอาหาร ผลสุก รับประทานเป็นผลไม้ นำมาเชื่อม ทำแยม ทำน้ำผลไม้ น้ำเชอรี่
#6
กล้วยไม้ / เอื้องผึ้ง รหัส 7-34190-001-467
22 มิถุนายน 2013, 13:27:05 หลังเที่ยง
เอื้องผึ้ง รหัส 7-34190-001-467
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Dendrobium linleyi Steud.
ชื่อพ้อง : Dendrobium aggregatum Roxb.
ชื่อสามัญไทย : เอื้องผึ้ง
วงศ์ย่อย :Epidendroideae
ชื่ออื่น : -ต้น : ต้นเป็นลำรูปรี มักจะแบนเล็กน้อยยาว 5 - 12 ซม. กว้าง 1.5 -2.5 ซม. มีสันและร่องตามยาว ผิวแห้ง สีเขียวเข้ม หรือเขียวอมม่วง ขึ้นเป็นกระจุกแน่น
ใบ : มี 1 ใบเกิดที่ยอด ใบรูปรี ยาว 6 - 12 ซม. กว้าง 2 - 2.5 ซม. แผ่นใบหนาแข็งและเหนียว สีเขียวเข้ม ปลายใบแหลมมน หรือหยักเว้าตื้นๆ
ดอก : ช่อดอกเกิดจากข้อที่ต้น ช่อดอกอ่อนห้อยลงเป็นพวงยาว 15 - 40 ซม. ทั้งช่อกว้าง 7 - 10 ซม. ก้านดอกผอม ยาว 3 - 4 ซม. ดอกขนาด 2 - 2.5 ซม. ดอกบานใหม่สีเหลืองอมเขียว วันต่อมาสีจะเข้มขึ้นจนเป็นสีเหลืองอมส้ม ดอกบานทนประมาณ 1 สัปดาห์ มีกลิ่นหอมอ่อนๆฤดูดอก : กุมภาพันธ์ - พฤษภาคมแหล่งที่พบในประเทศไทย : ป่าดิบแล้งเกือบทุกภาค ยกเว้นภาคกลางเขตการกระจายพันธุ์ : สิกขิม ภูฏาน อินเดีย จีน พม่า ลาว และเวียดนาม
#7
ไม้พุ่ม / พุดร้อยมาลัย รหัส 7-34190-001-215
22 มิถุนายน 2013, 13:12:05 หลังเที่ยง
215  พุดร้อยมาลัย
ชื่อพื้นเชื่อพื้นเมือง    พุดร้อยมาลัย
ชื่อวิทยาศาสตร์     Tabernaemontana pandacaqui Poir
ชื่อวงศ์   APOCYNACEAE
ลักษณะวิสัย   ไม้พุ่ม
ลักษณะพิเศษของพืช :กลีบดอกบิดเกลียวคล้ายกังหัน
พุด (พุดร้อยมาลัย) เป็นไม้พุ่มกลาง ต้นสูงประมาณ ๒-๓ เมตร ลำต้นสีน้ำตาลมีปุ่มเล็กตามต้นและกิ่ง ตารมต้นและใบมียาง ใบเดี่ยวออกเป็นคู่สลับตามก้านข้อ ใบสีเขียวเข้ม ดอกออกเป็นช่อตามปลายกิ่ง กลีบดอก ๕ กลีบ สีขาว บานในเวลากลางคืนและโรยในตอนเช้า ออกดอกตลอดปี ดอกตูมใช้ร้อยมาลัย

#8
ไม้ล้มลุก / ก้ามกุ้งสีทอง รหัส 7-34190-001-214
22 มิถุนายน 2013, 13:09:45 หลังเที่ยง
214   ก้ามกุ้งสีทอง
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Heliconia psittacorum L.f. x
H. spathocircinata Aristeg. Musoid 'Golden Torch'
ชื่อวงศ์ :  HELICONIACEAE   
ชื่อสามัญ : Parrot, Parrot flower, Yellow bird
ชื่อพื้นเมือง : ธรรมรักษา
ลักษณะทั่วไป (Characteristic) : ไม้ล้มลุก ลำต้นใต้ดิน ลำต้นเทียมสีเขียวผอมเรียว แตกกอ เป็นพุ่มแน่น
ใบ (Foliage) : ใบเดี่ยว เรียงเวียนสลับ ใบรูปขอบขนานแกมรูปไข่ ยาว 10-50 เซนติเมตร ปลายใบแหลมมีติ่ง
โคนใบมนหรือแหลมเป็นรูปลิ่ม ขอบใบเรียบหรือเป็นคลื่นเล็กน้อย แผ่นใบหนา ผิวใบด้านบนเกลี้ยง  สีเขียวเป็นมัน อาจมีผิวเหลือบสีแดง เส้นกลางใบหนา ก้านใบยาว
ดอก (Flower) :  สีเหลือง ออกเป็นช่อแบบช่อแยกแขนงที่ปลายกิ่ง ช่อดอกตั้งยาว 7-18 เซนติเมตร  มีกาบรอง ดอก 4-8 อัน โค้งเรียวยาวปลายแหลม เรียงห่างสลับกันเป็นสองแถวในแนวตั้ง ระนาบเดียวกัน ผิวเรียบเป็นมัน สีเหลืองหรืออาจมีจุดประสีแดง   กาบรองดอกอันล่างสุดมีสันและปลายสีเขียว กลีบดอกค่อนข้างตรง ผิวเกลี้ยงไม่มีขนปกคลุม ปลายกลีบดอกมีสีเหลือบเขียวเล็กน้อย
ผล (Fruit) : ผลสด รูปไข่ ยาว 0.75-1 เซนติเมตร ผิวมัน สีคราม
การใช้งานด้านภูมิทัศน์ (Landscape Used) : ดอกสวย ปลูกมุมอาคาร บังกำแพง ริมลำธาร น้ำตก ปลูกริมถนน ริมทางเดิน ริมสระว่ายน้ำ ริมทะเล ทนน้ำท่วมขัง เเฉะ
ประโยชน์ : นิยมปลูกเพื่อตัดดอกเนื่องจากมีอายุการปัก
#9
ไม้ล้มลุก / กล้วยด่าง รหัส 7-34190-001-213
22 มิถุนายน 2013, 13:07:58 หลังเที่ยง
213  กล้วยด่าง
http://www.garden2u.com/data/848C_1doc.html
ชื่อพื้นเมือง กล้วยด่าง
ชื่อพื้นเมือง กล้วยด่าง
ชื่อวิทยาศาสตร์ Heliconia illustris aureo-striata
ชื่อวงศ์ HELIEONIACEAE
ชื่อสามัญ –
กล้วยด่าง (Heliconia indica Lamarck cv. Striata) เป็นกล้วยประดับที่มีความงามแปลกตาที่ใบ คือ แผ่นใบด้านบนสีเขียวจะมีแต้มด่างเป็นสีเหลืองูกระจายอยู่โดยทั่ว พบตามสภาพธรรมชาติทั่วไปในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ลักษณะทั่วไป เป็นพันธุ์ไม้ที่แตกกอ มีก้านใบ ลักษณะใบเป็นใบเดี่ยว แผ่นใบคล้ายพาย ปลายใบแหลม โคนใบมน ขอบใบเรียบ พื้นใบสีเขียวเส้นกลางใบขาว และมีสีขาวเป็นปื้นตามใบ
การขยายพันธุ์ แยกหน่อ
ประโยชน์
ปลูกประดับสวน
#10
ไม้รอเลื้อย / พลูฉีก รหัส 7-34190-001-211
22 มิถุนายน 2013, 13:01:04 หลังเที่ยง
211
ชื่อวิทยาศาสตร์    Monstera delicosa Liebm.
ชื่อวงศ์: ARACEAE
ชื่อท้องถิ่น: พลูฉีก  พลูแฉก
ชื่อสามัญ : Mexican breadfruit, Swiss cheese plant
ลักษณะวิสัย: ไม้ล้มลุก

ลักษณะทั่วไป:  เป็นไม้เลื้อยที่มีรากตามข้อ  มีรากออกตามข้อของลำต้น  ช่วยในการเกาะยึด  ก้านใบยาว  ใบคล้ายรูปหัวใจ  แผ่นใบอาจเว้าลึกหลายแห่ง 
หรือไม่เว้าเลยก็มี  ใบมีสีเขียวเป็นมัน  ดอกสีขาวออกเป็นช่อเดี่ยว  หรือเป็นกลุ่มบริเวณใกล้ยอด

สาระสำคัญ: เป็นพืชที่มีพิษ
ส่วนที่เป็นพิษ  ยางจากต้น และสารจากต้น
สารพิษ :   สารในต้น สารพิษและสารเคมีอื่นๆ calcium oxalate, lycorine alkaloids
การเกิดพิษ : ถ้าเคี้ยวเข้าไปจะทำไห้ปาก ลิ้น เพดาน แสบและร้อนแดง เกิดอาการอาเจียน ท้องเสียเล็กน้อย เนื่องจากสารพิษไประคายเคือง mucosa และไปกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลางที่ควบคุมการอาเจียน
การรักษา : เมื่อได้รับสารพิษจากต้นให้ยาระงับปวดจำพวก meperidine(Demerol) บ้วนปากและกลั้วคอ รับประทาน aluminum magnesium hydroxide งดอาหารจำพวกไขมัน ให้อาหารอ่อนๆ
ประโยชน์: ใช้เป็นไม้ประดับใบสวยงาม