• Welcome to งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน โรงเรียนวารินชำราบ สพม. เขต 29.
 

ข่าว:

ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่เว็บไซต์งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนวารินชำราบ

Main Menu
Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - นันทนา ธรรมวรีย์

#1
ไม้พุ่ม / ขาไก่ด่าง รหัส 7-34190-001-540
22 มิถุนายน 2013, 10:38:25 ก่อนเที่ยง
ขาไก่ด่าง
ชื่อวิทยาศาสตร์:  Justicia fragilis Wall.
ชื่อวงศ์:  ACANTHACEAE
ชื่อสามัญ:  Flame  flower
ลักษณะทั่วไป:
    ต้น  ลำต้นสูงประมาณ 1 เมตร  เรือนยอดไม่แน่นอน  มักแตกเป็นกอ  หรือตัดให้แตกเป็นกอได้ดี  เปลือกนอกสีดำมีประสีขาว ลำต้นและกิ่งก้านมีสีม่วงดำ พุ่มกว้าง 0.3-0.6 เมตร ผิวสัมผัสละเอียด
    ใบ  ออกเป็นคู่ตรงข้าม  มีสีเขียวเป็นมัน ปลายใบแหลม  มีเส้นกลางใบเด่นชัด  ถ้าดินอุดมสมบูรณ์ใบจะแตกจำนวนมาก
    ดอก  ออกเป็นช่อยอดกิ่ง  ดอกมีลักษณะเป็นหลอด  ปลายแยกเป็น  5  กลีบ
ฤดูกาลออกดอก:  ออกดอกตลอดทั้งปี
การปลูก:  เป็นรั้ว เป็นแนว นิยมปลูกเป็นไม้ถุง
การดูแลรักษา:  ต้องการแสงปานกลางถึงแสงมาก ชอบน้ำหรือความชุ่มชื้นสูง
การขยายพันธุ์:  ปักชำลำต้น
การใช้ประโยชน์:  ไม้ประดับ
ถิ่นกำเนิด:  ไทย

#2
ไม้พุ่ม / มะเขือพวง รหัส 7-34190-001-539
22 มิถุนายน 2013, 10:30:23 ก่อนเที่ยง
มะเขือพวง
สรรพคุณเหลือเชื่อ
   นัก วิจัยของคณะเภสัชศาสตร์  มหาวิทยาลัยเชียงใหม่  ได้วิจัยเรื่องสรรพคุณ วิเศษของมะเขือพวง  ผักพื้นบ้านของไทย  และพบว่า  เป็นพืชที่มีประโยชน์อย่างมาก  เนื่องจาก  มีฤทธิ์ช่วยลดอนุมูลอิสระ  ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ของผู้ป่วยเบาหวาน   มีเส้นใยที่ช่วยดูดซับไขมันส่วนเกินได้ดีเยี่ยม  เรียกว่า เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นสำหรับนักวิจัยและคนไทยทั่วไป  เนื่องจาก มะเขือพวง  เป็นพืชคู่ครัวคนไทยมาช้านาน ไม่ว่าเราจะกินแกงเขียวหวาน  แกงเนื้อ  แกงป่า  น้ำพริกกะปิ  หรือผัดเผ็ดบางชนิด  สิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือ "มะเขือพวง"  แสดงให้เห็นว่า  ตำหรับอาหารที่สืบทอดมาแต่โบราณ  บรรพบุรุษของเรา  มิได้คำนึงถึงรสชาติเพียงอย่างเดียว แต่ยังมองไปถึงสรรพคุณของพืชผัก แต่ละชนิดเป็นส่วนสำคัญอีกด้วย
"มะเขือพวง"  มีสรรพคุณตามตำราแพทย์แผนโบราณหลายประการ  เช่น  ช่วยเจริญอาหาร  ช่วยระบบขับถ่าย  บำรุงธาตุ  ขับเสมหะ แก้ไอ  ช่วยให้โลหิตหมุนเวียนได้ดี  แก้ปวด  ฟกซ้ำ  ปวดกระเพาะ  แก้อาการฝีบวมหนอง  อาการบวม  อักเสบ  ขับปัสสาวะ  ทั้งนี้  จากการศึกษาวิจัย  ทำให้พบว่า
1.  มะเขือพวงมีสารจำพวก  "ไฟโตนิวเทียนท์"  ที่จะช่วยร่างกาย ในสภาวะขาดสารอาหาร  ให้สามารถกลับมาทำงานได้อย่างปกติ
      2.  มีกลุ่มสาร "ทอร์โวไซด์"  ซึ่งช่วยลดระดับโคเลสเตอรอลในกระแสเลือดได้ และกระตุ้นให้ตับนำโคเลสเตอรอลในเลือดไปใช้ได้มากขึ้น  รวมทั้งยับยั้งการดูดซึมกลับของโคเลสเตอรอลในลำไส้ด้วย  จึงอาจช่วยป้องกันโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือดได้อีกทางหนึ่ง
     3.  ในมะเขือพวงมีสาร  "ซาโปนิน"  ทำให้มะเขือพวงมีฤทธิ์ขับเสมหะ
     4.  มะเขือพวงเป็นพืชที่มีเส้นใยมากที่สุด  เมื่อเทียบกับผักพื้นบ้านของไทยทั้งหมด  จนได้รับสมญานามเป็น "ราชาแห่งผักพื้นบ้าน  ในเรื่องของสารเส้นใย"  โดยมีเส้นใยมากกว่ามะเขือยาว 3  เท่า  และมากกว่ามะเขือเปราะถึง  65  เท่า  เส้นใยในมะเขือพวง  มีชื่อเรียกว่า  "เพกติน"  ซึ่งเป็นสารที่ละลายน้ำได้
     สารนี้ จะสามารถเปลี่ยนเป็นวุ้นไปเคลือบที่ผิวของลำไส้  ทำให้ลำไส้ดูดซึมแป้งและน้ำตาลที่ย่อยแล้วได้ช้าลง  จึงเป็นการช่วยไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นเร็วเกินไป  ทำให้ควบคุมระดับน้ำตาลในผู้ป่วยโรคเบาหวานได้
#3
ไม้ต้น / สกุณี รหัส 7-34190-001-538
22 มิถุนายน 2013, 10:24:04 ก่อนเที่ยง
สกุณี
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Terminalia calamansanai   Rolfe
ชื่อวงศ์ : COMBRETACEAE
ชื่ออื่นๆ : สัตคุณี ขี้มอด ตาโหลน ตีนนก แฮ้น แหนแดง ประคำขี้ควาย เปียแคร้
ลักษณะ :
ไม้ต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สุง 8-20 เมตร ผลัดใบ กิ่งก้านแผ่ ที่โคนต้นมักมีพูพอนขนาดเล็ก ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงเวียนสลับกันแน่นใกล้ปลายกิ่ง รูปไข่กลับแคบๆ ปลายใบแหลม โคนใบสอบ กว้าง 3-8 ซม. ยาว 9-18 ซม. เนื้อใบค่อนข้างหนาคล้ายแผ่นหนัง ด้านบนมักเป็นเงามัน ก้านใบเรียว ยาว 1-4 ซม. มักมีต่อมหนึ่งคู่ อยู่บริเวณกึ่งกลางก้านใบ ดอกสีขาวแกมเหลือง ออกเป็นแกนช่อตามง่ามใบ ช่อดอกยาว 8-16 ซม. ดอกย่อยไม่มีก้านดอก เป็นดอกสมบูรณ์เพศ ขนาดผ่าศูนย์กลาง 2-2.5 มม. มีกลิ่นหอมเอียน กลีบดอกเชื่อมติดกัน เป็นรูปถ้วย ยาว 1-2 มม. ปลายแยกเป็นกลีบรูปสามเหลี่ยม ยาว 1 มม. ด้านนอกมีขน ด้านในมีเกสรผู้จำนวนมารก ผลเป็นรูปสามเหลี่ยม แก่ไม่แตก มีปีก 2 ปีก มีขนคลุมสีน้ำตาลอ่อน กว้าง 2-4 ซม. ยาว 4-8 ซม.
การกระจายพันธุ์ : พบ ทั่วไปในเอเชียตะว้นออกเฉียงใต้ จนถึงฟิลิปปินส์และนิวกินี ในประเทศไทยพบตามป่าเบญจพรรณในระดับต่ำที่ความสูงไม่เกิน 200 เมตร จากระดับน้ำทะเล ออกดอกเดือนสิงหาคม-ธันวาคม ติดผลเดือนธันวาคม-เมษายน ทิ้งใบช่วงสั้นๆ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน 
ประโยชน์ :
เนื้อไม้ไม่ทนทาน แต่สามารถใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ และใช้ในการก่อสร้างภายในตัวอาคารได้ดี
#4
ไม้ล้มลุก / กระเจี๊ยบเขียว รหัส 7-34190-001-537
22 มิถุนายน 2013, 10:17:02 ก่อนเที่ยง
ชื่อสามัญ Okra, Gumbo, Lady's finger, Quimbamto (อัฟริกา)
กระต้าด (แถบจังหวัดสมุทรสาคร, สมุทรปราการ)
มะเขือมอญ (ภาคกลาง)
มะเขือมื่น (ภาคเหนือ)
ถั่วเละ (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Abelmochus esculentus L. Moench
สกุล Malvaceae (Mallow family)
http://web.ku.ac.th/agri/okra/menu.htm
ระเจี๊ยบเขียว คุณค่าที่คนไม่ค่อยรู้
    กระเจี๊ยบ มีอยู่สองชนิด คือ กระเจี๊ยบแดง และ การะเจี๊ยบเขียว ที่เรารู้จักกันทั่วไป มักจะเป็น กระเจี๊ยบแดง ที่เอามาต้มเป็น น้ำกระเจี๊ยบ ที่หลายท่าน ชอบดื่ม เพราะ สดชื่น และ มีประโยชน์ นั่นเอง แต่กับ อีกหนึ่งกระเจี๊ยบ คือ กระเจี๊ยบเขียว เป็นอะไรที่ เรา ๆ ท่าน ๆ ถ้าไม่ใช่เด็กบ้านสวน หรือ เด็กต่างจังหวัด ก็คงไม่รู้หรอก ว่าหน้าตามันเป็นอย่างไร มีคุณค่า ประโยชน์อย่างไร วันนี้เลยเอามาฝากกัน

    กระเจี๊ยบ เขียว เป็นพืชล้มลุกมีอายุประมาณ 1 ปี เจริญเติบโตได้ดีในเขตอากาศกึ่งร้อน คือมีอุณหภูมิระหว่าง 18-35 องศาโดยประมาณ เป็นพืชที่สามารถนำมาเป็น สมุนไพร ได้ เพราะมีสรรพคุณทางยาที่ช่วยรักษาเกี่ยวกับโรคกระเพาะอาหาร
#5
ไม้ต้น / มันสำปะหลังด่าง รหัส 7-34190-001-536
22 มิถุนายน 2013, 09:47:43 ก่อนเที่ยง
มัน สำปะหลังใบด่าง มีชื่อวิทยาศาสตร์เหมือน กับมันสำปะหลังทั่วไปคือ MANIHOT ESCULENTA CRANTZ อยู่ในวงศ์ EUPHORBIACEAE ลักษณะทางพฤกษศาสตร์เป็นไม้ต้นขนาดเล็ก มีหัวใต้ดิน ลำต้นตั้งตรง มีตาตามรอยก้านใบที่ร่วงไปอย่างชัดเจน ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับเป็นรูปทรงกลมแล้วหยักเว้าลึกเป็นรูปนิ้วมือ มีใบย่อย 7 แฉก หรือ 7 ใบ แต่ ละใบหรือแต่ละแฉกเป็นรูปไข่กลับ ปลายแหลมเป็นติ่งกว้าง โคนใบเรียวแคบ พื้นใบเป็นสีเขียว มีรอยด่างสีขาวแทงขึ้นจากโคนใบไปเกือบจดปลายใบ ก้านใบยาว เป็นสีแดงเลือดนก หรือสีแดงอมม่วง เวลามีใบดกก้านใบชูตั้งขึ้นและแผ่กระจายเป็นพุ่มกว้าง จะดูสวยงามน่ารักมาก
หัว รูปทรงกลมและยาว ออกเป็นกระจุก แต่ชนิดใบด่างจะมีหัวขนาดเล็กกว่าหัวของชนิดใบสีเขียวที่ปลูกเก็บหัวรับ ประทานและขายทั่วไปและหัวของ "มันสำปะหลังใบด่าง" ไม่นิยมรับประทานหรือขายตามที่กล่าวข้างต้น
ดอก ออกเป็นช่อที่ปลายยอด แต่ละช่อประกอบด้วยดอกย่อยขนาดเล็กจำนวนมาก ดอกเป็นสีขาว ขยายพันธุ์ด้วยการ ปักชำต้น และ หัว ปัจจุบัน "มันสำปะหลังใบด่าง" มีต้นขายที่ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ บริเวณโครงการแผงหน้าห้องสุขา ราคาสอบถามกันเอง  ปลูกได้ในดินทั่วไป  เป็นไม้ชอบแดด ไม่ชอบน้ำท่วมขัง ทนแล้งได้ดี เหมาะจะปลูกเป็นไม้ประดับโชว์ความสวยงามของใบทั้งปลูกลงกระถางขนาดใหญ่ตั้ง ประดับในบริเวณบ้าน หรือปลูกลงดินเป็นกลุ่มหลายๆต้น เวลามีใบดกจะดูสวยงามน่ารักมาก
ใบอ่อนของมันสำปะหลังที่กินได้มีชนิด เดียวคือสายพันธุ์ 5 นาที เป็นแหล่งกรด "อะมีโน" และ "โปรตีน" สูงกว่าถั่วเหลือง ต้มให้สุกรับประทานแก้โรคขาดวิตามินบีหนึ่งดีมาก แต่ต้องทำให้สุกมากๆก่อนรับประทาน เพราะใบมีพิษกินมากตายได้ต้องระวังครับ.