• Welcome to งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน โรงเรียนวารินชำราบ สพม. เขต 29.
 

ข่าว:

โรงเรียนได้รวบรวม พืชพรรณ นานาชนิดกว่า 600 ชนิด ที่ถูกรวบรวม เรียบเรียงไว้อย่างเป็นระบบ สืบค้นได้ง่าย

Main Menu
Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - น.ส.พิมพร สุธรรมแจ่ม

#1
ไม้ต้น / กาหลง รหัส 7-34190-001-565
22 มิถุนายน 2013, 10:29:27 ก่อนเที่ยง
ชื่อวิทยาศาสตร์   Bauhinia acuminata L.   
ชื่อวงศ์   CAESALPINIACEAE   
ชื่อสามัญ   Snowy Orchid Tree   
ชื่ออื่นๆ   เสี้ยวดอกขาว, ส้มเสี้ยว, เสี้ยวน้อย   
ถิ่นกำเนิด   ประเทศอินเดีย, เอเชียตะวันออกเฉียงใต้   
การขยายพันธุ์   เพาะเมล็ด   
ประวัติและข้อมูลทั่วไป
นิยมปลูกเป็นกลุ่มร่วมกับ ชงโค โยทะกา เพราะมีลักษณะคล้ายกัน
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
เป็นไม้ประดับยืนต้นขนาดเล็ก ความสูง 3-5 เมตร ใบเป็นใบเดี่ยว ปลายใบเว้าเข้าเป็นรูปหัวใจหรือมองดูคล้ายเป็นใบแฝดติดกัน ผลัดใบในฤดูหนาวระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม และจะแตกใบใหม่ราวเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม ดอกออกหลังจากใบใหม่แตกออกมาแล้ว ดอกออกเป็นช่อสั้นๆ มีประมาณ 3-5 ดอก ใน 1 ช่อ กลีบดอกสีขาวซ้อนกัน กาหลงมีผลเป็นฝักแบน เมื่อแก่จะมีสีเป็นสีน้ำตาลเข้ม ขนาดของฝัก กว้าง 1-1.5 ซม. ยาว 6-10 ซม.
การปลูกและดูแลรักษา
ปลูกขึ้นง่ายในดินร่วนทั่วไป ที่มีความชื้นและอุดมสมบูรณ์
http://www.panmai.com/GardenSong/Flower_29.shtml

#2
ไม้พุ่ม / ดอนญ่า รหัส 7-34190-001-564
22 มิถุนายน 2013, 10:27:03 ก่อนเที่ยง
ชื่อวิทยาศาสตร์      Mussaendaphilippica  A.Rich cv. Queen sirikit
ตระกูล                  RUBIACEAE
ชื่อสามัญ              DonaTrining
ดอนญ่า "ควีนสิริกิติ์" เป็นลูกผสมระหว่าง Mussaenda Luz และ M.philipica  'Aurorae' ที่มหาวิทยาลัยฟิลิปปินส์
ผสมขึ้น ในปี 2506 เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
      เสด็จฯทรงเยือนประเทศฟิลิปปินส์อย่างเป็นทางการ ทางมหาวิทยาลัยจึงได้กราบบังคมทูลสมเด็จพระนางเจ้าฯ
พระบรมราชินีนาถ ขอพระราชทานพระราชานุญาตเชิญพระนามาภิไธย "สิริกิติ์" เป็นชื่อของดอนญ่าลูกผสมพันธุ์ใหม่นี้ว่า
ดอนญ่า "ควีนสิริกิติ์"
ลักษณะทั่วไป
เป็นไม้พุ่มสูงประมาณ 1-3 เมตร ใบ เดี่ยว ออกตรงข้าม รูปรี ปลายแหลม ขนาดกว้าง 4-6 เซนติเมตร ดอก ออกเป็นช่อที่
ปลายยอด แต่ละช่อมีใบประดับขนาดใหญ่รองรับ สีชมพูอ่อน ขลิบขอบด้วยสีชมพูเข้มเกือบแดง ดอกย่อยสีเหลือง
ขนาดเล็ก มี 5 กลีบ ส่วนโคนเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 5 กลีบ รูปสามเหลี่ยม

#3
ไม้เลื้อย / เครือซูด เถาวัลย์แดง รหัส 7-34190-001-563
22 มิถุนายน 2013, 10:24:34 ก่อนเที่ยง
ชื่อท้องถิ่น : เถาวัลย์ แดง, เถาวัลย์แดง Thao wan daeng (Ratchaburi); เครือซุด Khruea sut (Loei); เครือมะแตก Khruea ma taek (Northern); อบเชยเถา Op choei thao (Bangkok)
เครือซูด

ชื่อพื้นเมือง : เครือซูด (สระบุรี, อุบลราชธานี) ช้างงาเดียว (ประจวบคีรีขันธ์) เถาประหล่ำผี (ชัยนาท) สร้อยสุมาลี กุมาริกา (ภาคกลาง) เครือเขามวก เครือเขามวกขาว เขามวกขาว ตั่งตู่เครือ (ภาคเหนือ) มวก ส้มลม (ปราจีนบุรี) ตังติด (จันทบุรี) วันจรูก (เขมร-จันทบุรี) วอร์กั้นจรูก (เขมร-ปราจีนบุรี)

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Parameria laevigata (Juss.) Moldenke

ชื่อวงศ์ : APOCYNACEAE

ชื่อสามัญ : -

ลักษณะ : ไม้เถา ลำต้นเลื้อยพันไม้อื่น มีน้ำยางขาว ใบเดี่ยวเรียงตรงข้ามหรือเป็นวงรอบข้อ ข้อละ 3 ใบ รูปรี รูปขอบขนานถึงรูปใบหอก ช่อดอกแบบช่อแยกแขนง ออกตามง่ามใบและปลายกิ่ง ดอกเล็กสีขาว กลิ่นหอมแรง ฝักยาว หยักคอดระหว่างเมล็ด เมื่อแก่แตกออกจากกันด้านเดียว เมล็ดรูปคล้ายเรือ โคนมีปุยขนยาวคล้ายเส้นไหม ออกดอกระหว่างเดือนสิงหาคมถึงเมษายน ผลแก่ระหว่างเดือนมกราคมถึงเมษายน

ประโยชน์ : เปลือกใช้ปรุงเป็นยารักษาบาดแผลภายใน โดยเฉพาะหญิงหลังการคลอดบุตร โรคทางเดินอาหารและวัณโรค
#4
ไม้พุ่ม / ใบสามกษัตริย์ รหัส 7-34190-001-562
22 มิถุนายน 2013, 10:17:29 ก่อนเที่ยง
ชื่อสามัญ P. kewense
ชื่อวิทยาศาสตร์ Pseuderanthemum atropurpureum.
วงศ์ ACANTHACEAE
ชื่ออื่น นาคนอก ทองสัมฤทธิ์
ลักษณะทั่วไป
ใบนาคเป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดเล็ก ลักษณะเป็นพุ่ม ลำต้นมีความสูงประมาณ 1-2 เมตร แตกกิ่งก้านสาขาออกจากโคนต้น
และเจริญพุ่งตรงขึ้นไปข้างบน ลำต้นกลมเล็กสีขาวปนเทา ใบเป็นใบเดี่ยวออกเป็นคู่ ๆ ตรงกันข้ามลักษณะใบคล้ายรุปหอก
ปลายใบแหลมโคนใบสอบ ขอบใบเรียบพื้นใบมีสีเขียวอมม่วงสีขาวม่วงสีชมพูเข้มปนคละกันไม่เป็นระเบียบขนาดใบกว้าง
ประมาณ 3-6 เซนติเมตร ยาวประมาณ 7-10 เซนติเมตร ดอกออกเป็นช่อสั้นออกตามส่วนยอดลักษณะเป็นหลอดยาวประมาณ
2-3 เซนติเมตร โคนหลอดจะมีกลีบดอก 3 กลีบ ปลายดอกบานมีสีม่วง
การเป็นมงคล
คนไทยโบราณเชื่อว่าบ้านใดปลูกต้นใบนาคไว้ประจำบ้านจะทำให้มีเงินมีทองเพราะเป็นไม้มงคลนามนอกจากนี้คนไทยโบราณ
ได้นำใบนาคมาประกอบพิธีสำคัญทางศาสนาเช่นการทำน้ำพุทธมนน์การขึ้นบ้านใหม่ ดังนั้นคนไทยโบราณจึงเชื่อว่าต้นใบนาคเป็นไม้ที่มีความศักดิ์สิทธิ์
ตำแหน่งที่ปลูกและผู้ปลูก
เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านและผู้อาศัย ควรปลูกต้นใบนาคไว้ทางทิศตะวันออกหรือทิศใต้ก็ได้ ผู้ปลูกควรปลูกในวันอังคาร เพราะคนโบราณเชื่อว่าการปลูกไม้เพื่อเอาประโยชน์ ทั่วไปทางใบให้ปลูกในวันอังคารถ้าจะให้เป็นมงคลยิ่งขึ้นนั้นควรปลูกต้นใบ เงิน ใบทอง ใบนาค ไว้บริเวณเดียวกันหรือใกล้กันก็จะดียิ่งนัก
การปลูก
การปลูกมี 2 วิธี
1. การปลูกในกระถางเพื่อประดับภายนอกอาคารบ้านเรือน ใช้กระถางทรงสูงขนาด 10-14 นิ้ว ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก : แกลบผุ :     ดินร่วนอัตรา1:1:1 ผสมดินปลูกควรเปลี่ยนกระถาง1-2 ปี/ครั้งเพราะการเจริญเติบโตของทรงพุ่มโตขึ้นและเพื่อเปลี่ยนดินปลูกใหม่ทด แทนดินปลูกเดิมที่เสื่อมสภาพไป
2. การปลูกในแปลงปลูกเพื่อประดับบริเวณบ้านและสวน โบราณนิยมปลูกไว้บริเวณสวน เพราะจะได้เป็นเสน่ห์แก่บ้านขนาดหลุมปลูก 30 x 30 x 30 เซนติเมตร ใช้ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก : ดินร่วน อัตรา 1:2 ผสมดินปลูก:
การดูแลรักษา
แสง                         ต้องการแสงแดดอ่อน รำไร

น้ำ                            ต้องการปริมาณน้ำปานกลาง การให้น้ำ 5-7 วัน/ครั้ง

ดิน                          ชอบดินร่วนซุย มีความชื้นสูง

ปุ๋ย                         ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 0.5-1 กิโลกรัม/ต้น ควรใส่ 4-5 ครั้ง/ปี
                                 
การขยายพันธ์         การปักชำ การเพาะเมล็ด วิธีที่นิยมและได้ผลดี การปักชำ
     
โรคและแมลง          ไม่ค่อยพบและมีปัญหาเรื่องโรค แมลง จะพบไรแดง

อาการ                      ใบสีเหลือง และแห้งเป็นจุดสีน้ำตาล

การป้องกันกำจัด     รักษาความสะอาดบริเวณพื้นที่ปลูก ใช้กำมะถ้นผง หรือ

                                 ฉีดพ่นด้วยยาไอโซทอกซ์ตามคำแนะนำที่ระบุไว้ในฉลากยา
#5
ไม้ล้มลุก / ฤาษีผสม รหัส 7-34190-001-561
22 มิถุนายน 2013, 09:47:30 ก่อนเที่ยง
  ชื่อวิทยาศาสตร์ :  Coleus
  ชื่อวงศ์ : Labiatae
  ชื่อสามัญ :  Painted nettle,  Flame nettle
  ชื่อพื้นเมือง : ฤาษีผสมแล้ว
ลักษณะทั่วไป (Characteristic) : ไม้พุ่มขนาดเล็ก ลำต้นและกิ่งเป็นเหลี่ยม ค่อนข้างอวบน้ำ
   ใบ (Foliage) ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม ใบรูปไข่ กว้าง 2- 10 เซนติเมตร
                        ยาว 2- 15 เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคนใบมน หรือสอบเรียว   
                        ขอบใบหยักเว้า   แผ่นใบมักหยิกย่น  มีลวดลายและสีต่างกันตามพันธุ์  มีขน 
   ดอก (Flower)   สีขาวอมม่วงถึงม่วง   ออกเป็นช่อแบบช่อแยกแชนงที่ปลายกิ่ง   
                        ช่อดอกตั้งขึ้นยาว    5- 25 เซนติเมตร   
                        โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอดปลายแยกเป็น 5 แฉก 
                        เกสรตัวผู้ 2 คู่ยาวไม่เท่ากัน ดอกบานเต็มที่กว้าง 0.8-1 เซนติเมตร
   ผล (Fruit)      ผลแห้งมีขนาดเล็กมาก เปลือกแข็ง มีเมล็ดเดียว
   แสง                ต้องการแสงมาก เมื่อได้รับแสงสีของใบก็จะสดใสน่ามองยิ่งขึ้น

   น้ำ                  ให้น้ำพอประมาณ อย่าให้เปียกแฉะมากเกินไป

   ดิน                  เจริญเติบโตได้ในดินร่วนซุย

   ปุ๋ย                  ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก เพราะจะช่วยทำให้ดินร่วนซุย

   การขยายพันธ์      ตัดชำ และเพาะเมล็ด

   โรคและแมลง      ไม่ค่อยพบโรค ส่วนแมลงได้แก่ พวกเพลี้ยไฟและไรแดง

   การป้องกันกำจัด  ฉีดพ่นด้วยมาลาไธออนหรือไดอาซินอนอัตราตามที่ฉลากยาระบุไว้