• Welcome to งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน โรงเรียนวารินชำราบ สพม. เขต 29.
 

ข่าว:

พืชพรรณต่างๆ มีภาพประกอบ และจัดเป็นหมวดหมู่ตามลักษณะวิสัย ค้นหาได้ง่าย

Main Menu
Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - สุพรรษา จารุเศรษฐ์

#1
ไม้ล้มลุก / บอนสี รหัส 7-34190-001-470
22 มิถุนายน 2013, 11:34:20 ก่อนเที่ยง
บอนสี รหัส 7-34190-001-470
ชื่อวิทยาศาสตร์: Caladium bicolor Vent.
ชื่อวงศ์: ARACEAE
ชื่อสามัญ: Fancy Leaved Caladium, Heart of Jesus
ชื่อท้องถิ่น: บอนฝรั่ง ลักษณะวิสัย: ไม้พุ่ม
ลักษณะทั่วไป: หัว  - มีลักษณะคล้ายหัวมันฝรั่งหรือหัวเผือก  มีรากฝอยขนาดเล็กแตกรอบๆ หัว  และที่ใกล้ๆ กับหัวราก  หรือระหว่างรากจะมีหน่อเล็ก ๆ หรือที่เรียกกันว่า  เขี้ยว ซึ่งสามารถงอกออกเป็นบอนต้นใหม่ได้
ใบ - บอนสีมีมาแต่โบราณมีรูปร่างคล้ายหัวใจ  หูใบยาวแต่ไม่ฉีกถึงสะดือ  ก้านใบอยู่กิ่งก้านใบ  ปลายใบแหลมหรือมนขึ้นอยู่กับสายพันธุ์  บอนไทย ใบมักมีใบขนาดใหญ่สีสันสวยงามและใบดกไม่ทิ้งใบ
กาบ  - คือส่วนที่ต่อจากหัวบอนกาบเป็นส่วนโคนของก้านใบ  แต่ไม่กลมเหมือนก้านใบคือมีลักษณะเป็นกาบ  คล้ายกาบใบผักกาด
ก้านใบ  - คือส่วนที่ต่อจากกาบใบขึ้นไปยังใบบอนที่กาบและก้าน  ใบนี้จะมีลักษณะของสีแตกต่างไปจากสีของกาบใบอย่างเห็นได้ชัด
สะโพก - คือส่วนด้านข้างของใบทั้งสองข้าง  อยู่บริเวณเหนือหูใบหรือแนวตรงกับสะดือใบ  มีลักษณะเว้าคอดลงจะเห็นได้ชัดในบอนใบไทย
ประโยชน์ : ปลูกเป็นไม้ประดับสวยงาม  ที่มีความสวยงามโดยเฉพาะใบที่มีรูปทรงและสีสันสวยงามแปลกตาจนได้ชื่อว่า "ราชินีแห่งใบไม้"
การขยายพันธุ์ : การแยกหน่อ  การผ่าหัวบอน  การเพาะเมล็ด
การกระจายพันธุ์ : ประเทศไทยพบขึ้นทั่วไป
#2
ไม้ต้น / น้อยหน่า รหัส 7-34190-001-468
22 มิถุนายน 2013, 11:20:46 ก่อนเที่ยง
น้อยหน่า รหัส 7-34190-001-468
ชื่อวิทยาศาสตร์  : Annona sguamosa Linn
วงศ์ :  Annonaceae
ชื่อท้องถิ่น : น้อยหน่า(ภาคใต้) มะนอแน่ มะแน่ (ภาคเหนือ)
ลักษณะของพืช » หรือมนน้อยหน่าเป็นพืชยืนต้นชนิดหนึ่ง ใบเดี่ยวติดกับลำต้น ใบรูปรี ปลายแหลม ดอกเล็ก 4 กลีบ สีเหลืองอมเขียว กลิ่นหอม ลูกกลม มีตุ่มนูนรอบผล เนื้อสีขาว รสหวาน                     เมล็ดดำการปลูก  ปลูกน้อยหน่าโดยการใช้เมล็ดได้ดี ปลูกง่าย
การปลูก » ปลูกน้อยหน่าโดยการใช้เมล็ดได้ดี ปลูกง่าย
ส่วนที่ใช้เป็นยา » ใบสดและเมล็ด
ช่วงเวลาที่เก็บยา » เก็บใบที่สมบูรณ์และเมล็ดจากผลสุก
รสและสรรพคุณยาไทย » ใบใช้แก้กลากเกลื่อน และใช้ฆ่าเหา ลูกน้อยหน่าตากแห้งตาย มาฝนกับเหล้าโรงรักษาแผล
ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ » ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ในใบและเมล็ดน้อยหน่ามีสารชื่อว่าAnonaine อยู่ด้วยในเมล็ดน้อยหน่าจะมีน้ำมันอยู่ประมาณ 45 % ประกอบด้วย Organic acid ,resin, steroida, Alkaloid จากการศีกษาวิจัยน้อยหน่ามีสรรพคุณในการฆ่าแมลงโดยเฉพาะเหา
วิธีใช้ » ใบสดและเมล็ดน้อยหน่าใช้ฆ่าเหา โดยการเอาเมล็ดน้อยหน่าประมาณ 10 เมล็ด หรือเอาใบสดประมาณ 1 กำมือ มาโขลกให้ ละเอียดผสมกับน้ำมันมะพร้าว 1-2 ช้อนโต๊ะขยี้ให้ทั่วศีรษะ แล้วใช้ผ้าโพกศีรษะไว้ประมาณครึ่งชั่วโมงแล้วจากนั้นก็ล้างน้ำให้สะอาด
#3
ไม้ล้มลุก / หนวดฤาษี เคราฤาษี รหัส 7-34190-001-466
22 มิถุนายน 2013, 11:12:20 ก่อนเที่ยง
หนวดฤาษี เคราฤาษี รหัส 7-34190-001-466
ชื่อวิทยาศาสตร์ :    Tillansia usenoides L.
ชื่อวงศ์ :    Usnea
ชื่อสามัญ :    Spanish Moss
ชื่อพื้นเมือง :    -เคราฤาษีหรือมอสสเปน
ลักษณะทั่วไป :
    ต้น   พืชอิงอาศัย ลำต้นทอดยาวได้ถึง 30 เมตร มีลำต้นยืดยาวเรียวเล็กคล้ายเส้นด้าย ต้นมีขนเส้นเล็กละเอียดสีเทาเงินทั่วไป
    ใบ    บางรูปแถบ ยาว 2.5 - 5 ซม.
    ดอก    สีชมพูอมแดง   
การขยายพันธุ์:    แยกลำต้น
ส่วนที่มีกลิ่นหอม:    ดอกมีกลิ่นหอมอ่อนเวลาค่ำ
การใช้ประโยชน์: เป็นไม้ประดับแขวนไว้กับกระเช้าลวด[/font]
#4
ไม้ล้มลุก / ต้อยติ่ง รหัส 7-34190-001-90
22 มิถุนายน 2013, 10:37:58 ก่อนเที่ยง
ชื่ออื่นๆต้อยติ่ง  อังกาบ
ชื่อสามัญ Waterkanon, Watrakanu, Minnieroot, Iron root, Feverroot, Popping pod, Trai-no, Toi ting

ชื่อวิทยาศาสตร์ Ruellia tuberosa Linn.

วงศ์   Acanthaceae
ลักษณะพฤษศาสตร์เป็นพืชล้มลุกมีอายุยืน ลำต้นสูงประมาณ 25 - 50 เซนติเมตร ใบเดี่ยวรูปรีและไข่กลับ การเกาะติดของใบบนกิ่งเป็นคู่สลับ ดอกออกที่ซอกใบบริเวณปลายยอด ดอกสีม่วงน้ำเงิน ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 4 - 5 เซนติเมตร ผลเป็นฝัก เมื่อแก่สีน้ำตาลเข้มยาว 2 - 3 เซนติเมตร แห้งแล้วแตกเป็น 2 ซีก เมล็ดกลมแบนมีจำนวนมาก  ราก พองเป็นหัวสะสมอาหาร ปลายเรียวแหลมยาว ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 0.5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 5 - 10 เซนติเมตร
สรรพคุณด้านสมุนไพร
ราก  ทำให้อาเจียน ใช้ดับพิษ แก้ปัสสาวะพิการเมล็ด  ใช้พอกห้ามเลือด ผื่นคัน
#5
ไม้พุ่ม / ดีปลากั้งสัตว์ต่างๆ รหัส 7-34190-001-89
22 มิถุนายน 2013, 10:35:54 ก่อนเที่ยง
ดีปลากั้ง สังกรณี    Barleria   strigosa     ACANTHACEAE       ตลอดปี
#6
ไม้พุ่ม / เสลดพังพอนตัวผู้ รหัส 7-34190-001-88
22 มิถุนายน 2013, 10:27:40 ก่อนเที่ยง
ชื่อพื้นเมืองเสลดพังพอน ชองระอา พิมเสนต้นอังกาบแดง ซองสะอา หรือทองระอา ลิ้นงูเห่า พิมเสนต้น ต้นเขี้ยวงู ต้นสารพัดพิษ
ชื่อวิทยาศาสตร์ Barleria lupulina Lindl
ชื่อวงศ์ Acanthaceae
ลักษณะ :ไม้พุ่มขนาดเล็ก แตกกิ่งก้านสาขามาก ลำต้นสีน้ำตาลแดง มีหนาม
ตามข้อ ดอกสีเหลืองจำปา ออกเป็นช่อ ต้น ลำต้นสีน้ำตาลแดง
ใบ ลักษณะยาวเรียว ปลายใบแหลม มีเส้นกางใบสีแดง
ดอก ดอกเป็นช่อสีเหลือง
ประโยชน์ : ใบมีรสขม รักษาอาการแพ้อักเสบ ใบสดของเสลดพังพอน รักษาอาการแพ้ อักเสบ แมลงสัตว์กัดต่อย โดยเอาใบสด 1 กำมือ ตำให้ละเอียด คั้นเอาน้ำทาบริเวณที่เป็น หรือตำผสมเหล้าเล็กน้อย



#7
ไม้พุ่ม / เข็มแดง รหัส 7-34190-001-87
22 มิถุนายน 2013, 10:17:34 ก่อนเที่ยง
]ชื่อวิทยาศาสตร์     Ixora lobbii Loud
ชื่อวงศ์ RUBIAECAE
ชื่อสามัญ West Indian Jasmine
ชื่อท้องถิ่นเข็มแดง, เข็มใหญ่

ลักษณะทั่วไป : ต้น : เป็นพรรณไม้พุ่มขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ลักษณะต้นนั้นจะคล้ายเข็มขาว
ไม้พุ่ม    ขนาดเล็กหรือขนาดกลาง สูง 0.3-5.0 ม.

      ใบ : ใบนั้นจะหนายาวและเข็งมีสีสด ตรงปลายใบของมันจะแหลม ใบเรียงตรงข้ามหรือเรียงรอบข้อ ใบเดี่ยว รูปหอก ปลายใบแหลม เนื้อใบหนาและแข็ง สีเขียวสด ก้านใบสั้นมากหรือไม่มีก้านใบ
      ดอก ดอกช่อออกรวมกันเป็นช่อใหญ่ที่ปลายยอดหรือกิ่งข้าง ดอกย่อยสีแดง กลีบดอกเชื่อมกันเป็นหลอดยาว ปลายหลอดกลีบแยกเป็น 4-6 กลีบ เกสรเพศผู้สีเหลือง 4 อัน ติดอยู่ที่หลอดดอกด้านบนและอยู่สลับกับกลีบ เกสรเพศเมียยื่นเลยหลอดดอก มี 2 แฉกแต่ไม่มีกลิ่นหอม

      ผล ผลกลมเนื้อนุ่ม ภายในมีเมล็ด 1 เมล็ด เมื่อสุกสีดำ นิ่ม


ส่วนที่ใช้ : ราก ใช้เป็นยา
สรรพคุณ : รากใช้ปรุงเป็นยาบำรุงไฟธาตุ
บรรเทาอาการบวม รักษาตาพิการ
รักษากำเดา รักษาเสมหะ


#8
ไม้ต้น / กระดังงาไทย รหัส 7-34190-001-86
22 มิถุนายน 2013, 09:42:43 ก่อนเที่ยง
กระดังงาไทย   (Kra-dang-nga-thai),  Ylang-ylang
กระดังงาไทย
ชื่อวิทยาศาสตร์   Cananga  odorata Hook  f.
Syn. :   Canangium odoratum  Baill. ex King
      Uvaria odorata Lamk.
         Unona   odorata  Dun.
วงศ์         ANNONACEAE
ชื่ออื่นๆ   
ชื่อสามัญ: Perfume Tree, llang-llang,Ylang-Ylang
ภาคกลาง :   กระดังงาใหญ่    (Kra-dang-nga-yai)
กระดังงาใบใหญ่  (Kra-dang-nga-bai-yai)
                 ภาคเหนือ :   สะบันงาต้น  (Sa-ban-nga-ton)
      สะบันงา  (Sa-ban-nga)
      ยะลา :   กระดังงอ  (Kra-dang-ngo)

ถิ่นกำเนิด   พม่า   มาเลเซีย   ออสเตรเลีย   อินโดนีเซีย    ฟิลิปปินส์    ศรีลังกา
รูปลักษณะ   ไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ใบสีเขียวอ่อนดกหนาทึบ มีดอกกลีบบางอ่อนนุ่ม เกสรมีรูปกลมแป้นแบนๆ เท่าปลายนิ้วก้อย มีกลิ่นหอม ดอกสีเหลืองอมเขียว
สรรพคุณและส่วนที่นำมาใช้เป็นยา 
ต้นและกิ่งก้าน - รับประทานเป็นยาปัสสาวะ
ดอก -  ให้น้ำมันหอม บำรุงโลหิต บำรุงธาตุ ใช้ปรุงยาหอม บำรุงหัวใจ

ประโยชน์  รักษามะเร็งเพลิง เนื้อไม้ รักษาโรคปัสสาวะพิการ ใบรักษาโรคผิวหนัง แก้คัน ดอก มีน้ำมันหอม ใช้เข้าเครื่องหอมทุกชนิด แก้ลมวิงเวียน แก้ไข้  บำรุงธาตุ บำรุงหัวใจ นับเป็นพืชเศรษฐกิจชนิดหนึ่ง มีกระดังงาทางภาคใต้ตอนล่างของไทย พบในป่าดิบชื้นและมีปลูกทั่วประเทศ  ต่างประเทศพบที่ ฟิลิปปินส์  มาเลเซีย