• Welcome to งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน โรงเรียนวารินชำราบ สพม. เขต 29.
 

ข่าว:

โรงเรียนได้รวบรวม พืชพรรณ นานาชนิดกว่า 600 ชนิด ที่ถูกรวบรวม เรียบเรียงไว้อย่างเป็นระบบ สืบค้นได้ง่าย

Main Menu
Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - จุฑาทิพย์ แสงงาม

#1
ไม้เลื้อย / กรุงเขมา ระหัส 7-34190-001-175
22 มิถุนายน 2013, 10:36:28 ก่อนเที่ยง
กรุงเขมา ระหัส 7-34190-001-175       

ชื่อวิทยาศาสตร์
  Cissampelos pareira Linn. var. hirsutus(Buch. ex. DC) Ferman
วงศ์                 MENISPERMACEAE   
ชื่อสามัญ         กรุงเขมา (นครศรีธรรมราช) วุ้นหม้อน้อย; ขงเขมา; พระพาย (กลาง); หมาน้อย; เครือหมาน้อย (อีสาน); ก้นปิด (ใต้); เปล้าเลือด (แม่ฮ่องสอน); สีฟัน (เพชรบุรี); อะกามินเยาะ (นราธิวาส)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์และเกษตร    เป็นไม้เลื้อยพัน ใบเดี่ยว รูปร่างใบเป็นรูปหัวใจ  โคนใบแบบก้นปิด ใบกว้าง 5.6 – 6.6 เซนติเมตร ยาว 6.9 – 7.6 เซนติเมตร หน้าใบและหลังใบมีขนสีน้ำตาลยาวประมาณ 1 มิลิเมตร ปกคลุมหนาแน่น หลังใบมีขนปกคลุมหนาแน่นมากกว่าหน้าใบ ก้านใบมีขน ยาว 1.7 – 2.5 เซนติเมตร ดอกตัวผู้และตัวเมียเซนติเมตร ขอบใบเรียบ ใบเป็นมัน หน้าใบหลังใบไม่มีขน ยอดอ่อนสีน้ำตาลแดง ใบแก่สีเขียวเข้ม ก้านใบยาว 0.4 – 0.6 เซนติเมตร ออกดอกที่ยอดหรือปลายกิ่ง ช่อดอกมี 4 – 5 ดอก ยาว 6.0 – 6.5 เซ็นติเมตร ดอกย่อยแยกจากกัน มีขนาดเล็กสีเขียว เมล้ดโค้ง (เหมือนพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว) ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดหรือหน่อ
การใช้ประโยชน์     เป็นอาหารสัตว์ โค กระบือ ชาวบ้านใช้ใบมาตำ ขยำกับน้ำ นำมาปรุงอาหาร ถ้าทิ้งไว้จะแข็งตัวเหมือนวุ้น สมุนไพร ราก มีรสหอมเย็น แก้ไข้ ดีซ่าน เป็นยาอายุวัฒนะ บำรุงอวัยวะเพศให้แข็งแรง แก้กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ใบ ใช้ทาแก้โรคผิ




#2
ไม้ต้น / ไม้ยมหอม รหัส 7-34190-001-174
22 มิถุนายน 2013, 10:20:15 ก่อนเที่ยง
ไม้ยมหอม รหัส 7-34190-001-174
ชื่อวิทยาศาสตร์ Toona Ciliata M.Roem [Cedrela toona Roxb.]
ชื่อพื้นเมือง      ยมฝักดาบ (ภาคเหนือ) เล้ย (กระเหรี่ยง กาญจนบุรี) สะเดาดง (กาญจนบุรี) สีเสียดหอม (พิษณุโลก) สีเสียดอ้ม (ไทย)
วงศ์                 MELIACEAE
ชื่อการค้า        Mouimein Cear, Cigar-Box, Toona, Indian Mahogany
ลักษณะทั่วไป
  เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ สูงประมาณ 20 เมตรขึ้นไป โตเร็ว ลำต้นเปลาตรง สูงชะลูด เรือนยอดเป็นพุ่มกลมทึบ เปลือกหนา สีเทาปนดำ แตกเป็นร่องลึก ตามความยาวของ ลำต้นมีรูระบายอากาศทั่วไป ไม่มีกิ่งก้านรอบลำต้น นอกจากบริเวณเรือนยอด ใบ เป็นใบประกอบช่อยาว ใบย่อยรูปมนแกมรูปไข่ หรือรูปดาบออกตรงข้ามหรือเยื้องกันเล็กน้อย ยอดใบเรียวแหลม
ดอก มีขนาดเล็ก สีขาวหรือเหลืองอ่อน ออกรวมกันเป็นช่อยาว ๆ ตามง่ามใบ ตอนปลาย ๆ กิ่ง
ผล มีขนาดเล็ก กลมรี ๆ อุ้มน้ำ ผลแก่สีเหลือง เมื่อแก่จัดจะแตกและติดเมล็ด ที่มีปีกให้หลุดปลิวไปตามลมได้ไกล ๆ
ประโยชน์
  ไม้ใช้ทำกระดานฝา เพดาน หีบบุหรี่ โครงอานม้า เครื่องแกะสลัก ฝักดาบ ทำไม้อัดได้ดี เครื่องดนตรี ตุ๊กตา กระเบื้องไม้ แจว พาย กรรเชียง ไม้บุผนังที่สวยงาม ทำเรือยนต์แข่ง ทำเครื่องเล่น ด้ามแล็กเก็ต กลอง เครื่องดนตรีที่ใช้สาย ทำหีบใส่ของที่ดี หีบศพ หีบชา หีบดินปืน พานท้ายและรางปืน ลักษณะคล้ายไม้สุเหรียนทางภาคใต้ใช้แทนกันได้
เปลือก มียางไม้ที่เรียกว่า น้ำฝาด ใช้เป็นยาสมุนไพรสมานแผล และห้ามเลือด แก้ไข้และใส่แผล นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติต่อต้านเชื้อโรคเชื้อราบางชนิดอีกด้วย
ดอก ใช้เป็นยาขับระดู
#3
ไม้พุ่ม / เทียนหยด รหัส 7-34190-001-173
22 มิถุนายน 2013, 10:17:46 ก่อนเที่ยง
เทียนหยด รหัส 7-34190-001-173              
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Duranta erecta L.
ชื่อวงศ์ :  VERBENACEAE
ชื่อสามัญ : Duranta, Golden dew drop, Sky flower,Pigeon berry
ชื่อพื้นเมือง : ฟองสมุทร เครือออน ช่อม่วง
ลักษณะทั่วไป : ไม้พุ่มขนาดกลาง ลำต้นแตกกิ่งก้านจำนวนมาก กิ่งลู่ลง ทรงพุ่มแน่นทึบ เปลือกสีน้ำตาลอ่อน
ใบ : ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปไข่กลับ กว้าง 1.5-2 เซนติเมตร ยาว 3-7 เซนติเมตร ปลายใบแหลมหรือมน โคนใบสอบ ขอบจักฟันเลื่อย ก้านใบสั้น
ดอก : สีม่วง ม่วงเข้ม หรือขาว ออกเป็นช่อตามซอกใบที่ปลายกิ่ง โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอดปลายแยก 5 แฉก ดอกบานเต็มที่กว้าง 1-1.5 เซนติเมตร
ผล : ผลสด ออกเป็นช่อห้อยลง รูปกลม ขนาด 0.5-0.8 เซนติเมตร สีเขียว เมื่อสุกสีเหลืองการใช้งานด้านภูมิทัศน์ ดอกสวย   ปลูกประดับเป็นไม้ประธาน หรือเป็นแนวรั้วบัง
สายตา  ตัดเเต่งเป็นรูปทรงต่างๆได้  ปลูกริมถนน ทางเดิน ริมทะเล   ผลเป็นพิษไม่ควรปลูกใกล้สนามเด็กเล่น
ประโยชน์ :  ใบตำพอกแก้ห้อเลือด ห้ามเลือด แก้อักเสบบวมเป็นหนอง
#4
ไม้เลื้อย / รางจืด รหัส 7-34190-001-172
22 มิถุนายน 2013, 10:09:11 ก่อนเที่ยง
รางจืด รหัส 7-34190-001-172
ชื่อวิทยาศาสตร์  Thumbergia Laurifolia Linn.
วงศ์                 ACANTHACEAE
ชื่อสามัญ          Babbler's Bill Leaf

ลักษณะทั่วไป
ต้น       เป็นไม้เลื้อยลำต้นหรือเถามีเนื้อแข็ง เถามีสีเขียวสดหรือสีเขียวเข้ม เลื้อยพาดไปตามกำแพง  รั้ว แล้วจะทิ้งตัวห้อยเป็นระย้าลงสู่เบื้องล่าง
ใบ   
     รางจืดเป็นไม้ใบเดี่ยว ใบออกตรงข้ามกันเป็นคู่ ๆ ใบรูปขอบขนานหรือรูปไข่เรียวยาว ปลายใบเรียวแหลมเป็นติ่ง โคนใบเป็นรูปหัวใจ ขอบใบเรียบ
           หรืออาจจะเป็นหยักเล็กน้อย ใบเกลี้ยงไม่มีขน และใบที่อยู่ล่าง ๆ ก็มักจะใหญ่กว่าใบที่อยู่ถัดขึ้นไป

ดอก     ออกดอกเป็นช่อห้อยลงมาตามซอกใบ หรือตามข้อของลำต้น ช่อดอกหนึ่ง ๆ จะมีดอกประมาณ 3-4
           ดอก มีใบประดับสีขาวประด้วยสีแดงหุ้มดอกอยู่ มีกลีบดอกขนาดใหญ่ 5 กลีบ เป็นรูปฐาน ส่วน
           ดอกเป็นรูปแตร ดอกมีสีม่วงอ่อน สีฟ้า หรือสีขาว ภายในดอกมีเกสรตัวผู้อยู่ 4 อัน
การใช้ประโยชน์ทางด้านสมุนไพร รางจืดมีประสิทธิภาพในการรักษา คือ รางจืดสายพันธุ์ดอกสีม่วง   รากและเถา  รับประทาน  แก้ร้อนใน  กระหายน้ำ
ใบและราก  ใช้ปรุงเป็นยาถอนพิษไข้  เป็นยาพอกบาดแผล  น้ำร้อยลวก  ไฟไหม้  ทำลายพิษยาฆ่าแมลง  พิษจาก สตริกนินให้เป็นกลาง พิษจากดื่มเหล้ามากเกินไป หรือยาเบื่อชนิดต่างๆ เข้าสู่ร่างกาย
วิธีใช้    เป็นยาถอนพิษจากยาพิษต่างๆ หรือสุรา
           ใบสด  สำหรับคน 10-12 ใบ ,  สำหรับวัวและควาย  20-30 ใบ  นำใบสดมาตำผสมกับน้ำซาวข้าวครึ่งแก้ว  คั้นเอาแต่น้ำดื่มให้หมดทันทีที่มีอาการ อาจให้ดื่มซ้ำได้อีกใน 1/2 - 1 ชั่วโมงต่อมา
           รากสด  สำหรับคน  1-2 องคุลี ,  สำหรับวัวและควาย  2-4  องคุลี  นำรากมาฝนหรือตำกับน้ำซาวข้าว แล้วดื่มให้หมดทันทีที่มีอาการ  อาจให้ดื่มซ้ำได้อีกใน 1/2 - 1 ชั่วโมงต่อมา
#5
ไม้ต้น / มะกอก รหัส 7-34190-001-171
22 มิถุนายน 2013, 09:49:18 ก่อนเที่ยง
มะกอก   รหัส 7-34190-001-171             
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Spondias bipinnata Airy shaw & Forman
ชื่อวงศ์  ANACARDIACEAE
ชื่ออื่น : กอก (ใต้) กอกเขา (นครศรีธรรมราช) มะกอก (ไทยภาคกลาง) มะกอกดง กร้าไพ้ย (กระเหรี่ยง-กาญจนบุรี) กอกกุก (เชียงราย)
ลักษณะทางพฤษศาสตร์
ต้น เป็นไม้ยืนต้นผลัดใบขนาดกลางถึงใหญ่ สูงประมาณ 15-20 เมตร ลำต้นเดี่ยวตั้งตรง เนื้อไม้แข็ง กิ่งแขนงแตกเป็นพุ่มทรงกลมกว้าง กิ่งก้านมีร่องอากาศกระจัดกระจายทั่วไป ใบ เเป็นใบประกอบรูปขนนกออกเรียงสลับ มีใบย่อย 9-13 ใบ เป็นรูปวงรีแกมรูปไข่กลับ กว้าง 3-4 ซม. ยาว 7-12 ซม. ใบย่อย บริเวณโคนต้นฐานใบจะเรียว ใบอ่อนเป็นสีน้ำตาลแดงอมเขียวอ่อน ใบแก่สีเขียวเข้ม ดอก เป็นสีขาวอมเหลือง ออกเป็นช่อแยกแขนงที่ปลายกิ่ง หรือซอกใบของกิ่งที่ใบร่วง แต่ละช่อประกอบด้วยดอกย่อยจำนวนมาก ขนาดเล็กดอกมีกลีบดอก 5 กลีบ ปลายกลีบแหลม บริเวณใจกลางดอกมีเกสรตัวผู้สีเหลืองเป็นกระจุก ผล เป็นผลกลมรี ผลแก่สุกเป็นสีเขียวอมน้ำตาล มีเนื้อในฉ่ำน้ำ รสเปรี้ยวอมหวาน ภายในมี 1 เมล็ด เวลาติดผลเป้นพวงห้อย
สรรพคุณ
ใบ คั้นเอาน้ำหยอดหู แก้ปวดหู แก้หูอักเสบ เปลือกต้น ดับพิษกาฬ แก้ร้อนใน แก้ท้องเสีย แก้ปิดปวดมวน แก้สะอึก และแก้อาเจียน ผล แก้เลือดออกตามไรฟัน แก้ธาตุพิการ แก้บิด แก้โรค ขาดแคลเซียม ทำให้ชุ่มคอและแก้กระหายน้ำ เมล็ด รสเย็น สุ่มไฟแช่เอาน้ำดื่มแก้ร้อนใน แก้หอบ และแก้สะอึก ราก แก้ร้อนใน กระหายน้ำ ทำให้ชุ่มคอ และขับปัสสาวะ