• Welcome to งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน โรงเรียนวารินชำราบ สพม. เขต 29.
 

ข่าว:

ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่เว็บไซต์งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนวารินชำราบ

Main Menu
Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - สุมิตตรา ปั้นริ้ว

#1
ไม้พุ่ม / ชวนชม รหัส7-34190-001-249
22 มิถุนายน 2013, 11:17:00 ก่อนเที่ยง
ชื่อสามัญ Impala Lily Adenium Mock Azalea,Desert Rose,Kudu Lily และ Sabi Star
ชื่อวิทยาศาสตร์  Adenium obesum (Forssk.) Roem & Schult.
วงศ์ APOCYNACEAEั
ลักษณะโดยทั่วไป
ชวนชมเป็นพรรณไม้พุ่มต้นอวบน้ำขนาดเล็กลำต้นมีความสูงประมาณ1-3เมตรลำต้นอวบน้ำผิวเปลือกสีเขียวปนขาวผิวเรียบเป็นมัน ลำต้นมียางลำต้นบิดงอไปตามจังหวะแตกกิ่งก้านสาขาน้อยรูปทรงโปร่งใบแตกออกตามปลายของกิ่งก้านใบมนรีปลายใบมนโคนใบสอบเรียว กลางใบมีเส้นสีขาวมองได้ชัด ตัวใบแข็ง ผิวเป็นมันเรียบมีสีเขียวดอกออกตรงปลายยอดของก้านดอกเป็นรูปแตรมีกลีบดอก 5 กลีบ มีสีชมพูโคนกลีบดอกมีฐานรองดอกเป็นแฉกเล็ก ๆ สีเขียว ดอกบานมีความกว้างประมาณ 3-4 เซนติเมตร ยาวประมาณ  5 เซนติเมตร
ชวนชม(Adenium obesum) เป็นไม้ประดับชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากผู้สนใจ รัก และปลูกเลี้ยงไม้ดอกไม้ใบประดับกันอย่างมากที่สุด เพราะชวนชมเป็นพันธุ์ไม้ที่ปลูกเลี้ยงกันง่ายในสภาพอากาศร้อน ทรงต้นดูแปลกตา ให้ดอกชมกันตลอดปี และสีสันดอกสดใสสวยงามยิ่งมีการผสมพันธุ์จนได้ชวนชมต้นใหม่ที่แตกต่างออกไปจากต้นพ่อพันธุ์ต้นแม่พันธุ์ ทำให้มีชวนชมดอกสีแปลกๆ และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายมากขึ้น
ชวนชม หรือที่เรียกกันว่า ลั่นทมยะวา เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในแอฟริกาตะวันออก แถบแทนซาเนีย เคนยา และ ยูกันดา สามารถทนแล้งอยาในทะเลทรายได้เพราะเป็นพืชอวบน้ำจนได้ชื่อว่าเป็นกุหลาบแห่งทะเลทราย ( Desert Rose)
การแยกประเภทสายพันธุ์ชวนชม แบ่งออกเป็น 5 สายพันธุ์ดังนี้
   1.Adenium obesum ssp. boehmianum (Schinz) G. Rowley
   ใบใหญ่ ปลายใบกลมหรือมน มีรอยเว้าแหลม ขอบใบปิดเป็นคลื่น ดอกสีชมพูถึงสีม่วง สีม่วงเข้มในส่วนของกลีบดอกที่เชื่อมกันเป็นหลอด พบในนามิเบีย และ ทางตอนใต้ของอังโกลา
   2. Adenium obesum ssp.oleifolium (Stapf) G. Rowley
   ส่วนโคนต้นที่แข็งแรงและมีเนื้อไม้อยู่ใต้ดินลำต้นส่วนที่อยู่เหนือดินมีลักษณะผอมยาวและมีเนื้ออ่อน ใบรูปแถบขนาด 5´30 เซนติเมตร สีเขียวอมเทา แผ่นใบมีขนสั้นปกคลุม และมีสารจำพวกขี้ผึ้งเป็นผงละเอียดปกคลุมใบ พบในแถบตะวันออกของนามิเบีย ตอนเหนือของเคป และทางตอนใต้ของบอตสวานา
   3.Adenium obesum ssp. socotranum (Vierh.) Lavranos
   ทรงพุ่มเตี้ย ลำต้นรวมกันเป็นกลุ่ม กิ่งเรียงเป็นแนวสั้นๆ รวมกันเป็นกระจุก แผ่นใบเกลี้ยง ดอกสีชมพูสด พบใน โซ***า
4 Adenium obesum ssp. somalense (Balf. f.) G. Rowley
มีชื่อสามัญว่า Mock-azalea ไม้ยืนต้นขนาดเล็ก ใบรูปลูกศรแคบยาว แผ่นใบเกลี้ยง ยาวประมาณ 6 เซนติเมตร หรือรูปไข่ ใต้ใบสีเขียวนวล ดอกเล็กมีสีขาวถึงสีชมพู พบในเขตตะวันออกของแอฟริกา เคนยา โซมาลีแลนด์ และเอเดน
5. Adenium obesum ssp. swazicum  (Stapf) G. Rowley
   มีชื่อสามัญว่า White Impala Lily ลำต้นส่วนโคนที่แข็งอยู่ใต้ดินบางส่วน ใบกว้างรูปหอกกลับ หรือรูปไข่ แผ่นใบหนา ใบอ่อนมีขนอ่อนเล็กๆปกคลุมใต้ใบ ดอกอ่อนบริเวณปลายยอดเป็นกลุ่ม ดอกสีขาว หลอดดอกสีแดงเข้ม พบในสวาซิแลนด์ ทรานสวาลล์ และโมซัมบิก[/font][/size]
#2
ไม้ล้มลุก / ตำแยแมว รหัส 7-34190-001- 250
22 มิถุนายน 2013, 10:44:31 ก่อนเที่ยง
ตำแยแมว รหัส 7-34190-001- 250
ชื่อวิทยาศาสตร์  Acalypha   indica  Linn.
ชื่อวงศ์   EUPHORBIACEAE               
ชื่ออื่นๆ   ตำแยตัวผู้  หานแมว 
ชื่อสามัญ  Indian acalypha,  Tree – seeded  mercury
ที่มา  :  IIIustration  of  the Flora  of  Delhi
ลักษณะวิสัย
   ไม้พุ่มขนาดเล็ก  ขึ้นเป็นวัชพืชทั่วไป  ลำต้นมีขนปกคลุม ใบรูปไข่ ขอบใบหยัก  ด้านบนมีขน ปกคลุม ดอกเป็นดอกช่อ  ส่วนยอดของช่อดอกเป็นดอกเพศเมีย มีใบประดับหยักเป็นซี่ฟัน  มีขนปกคลุม  แต่ละใบประดับหุ้มห่อดอก 2-6 ดอก  ผลแห้งแตกได้  ภายในมีเมล็ด 1 เมล็ด (พ32)
สรรพคุณ
   ราก  ขับเสมหะ  ทำให้อาเจียน ทำให้ระคายเคืองทางเดินอาหาร   เป็นยาถ่าย     ใบ  ขับพยาธิเส้นด้ายในเด็ก  ขับเสมหะในโรคหลอดลมอักเสบ  ขับเสมหะในโรคหอบหืดเป็นยาถ่าย  ทำให้คลื่นเหียนอาเจียน (รับประทานปริมาณมาก)  ใบแห้งป่นโรยรักษาแผลเนื่องจากนอนมาก ยาระบาย   แก้หืด ขับเสมหะ
   ทั้งต้น  ขับเสมหะ  ทำให้อาเจียน ถอนพิษของโรคแมวได้ดี
   ไม่ระบุส่วนที่ใช้  ขับเสมหะ ทำให้อาเจียน  แก้ไอ  ขับพยาธิเส้นด้ายในเด็ก ทำให้ทางเดินอาหารระคายเคือง ถอนพิษโรคของแมว  [/size][/font]

#3
ไม้พุ่ม / ชวนชม รหัส7-34190-001-249
22 มิถุนายน 2013, 10:43:44 ก่อนเที่ยง
ชื่อสามัญ Impala Lily Adenium Mock Azalea,Desert Rose,Kudu Lily และ Sabi Star
ชื่อวิทยาศาสตร์  Adenium obesum (Forssk.) Roem & Schult.
วงศ์ APOCYNACEAEั
ลักษณะโดยทั่วไป
ชวนชมเป็นพรรณไม้พุ่มอวบน้ำขนาดเล็กลำต้นมีความสูงประมาณ1-3เมตรลำต้นอวบน้ำผิวเปลือกสีเขียวปนขาวผิวเรียบเป็นมัน ลำต้นมียางลำต้นบิดงอไปตามจังหวะแตกกิ่งก้านสาขาน้อยรูปทรงโปร่งใบแตกออกตามปลายของกิ่งก้านใบมนรีปลายใบมนโคนใบสอบเรียว กลางใบมีเส้นสีขาวมองได้ชัด ตัวใบแข็ง ผิวเป็นมันเรียบมีสีเขียวดอกออกตรงปลายยอดของก้านดอกเป็นรูปแตรมีกลีบดอก 5 กลีบ มีสีชมพูโคนกลีบดอกมีฐานรองดอกเป็นแฉกเล็ก ๆ สีเขียว ดอกบานมีความกว้างประมาณ 3-4 เซนติเมตร ยาวประมาณ  5 เซนติเมตร
ชวนชม(Adenium obesum) เป็นไม้ประดับชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากผู้สนใจ รัก และปลูกเลี้ยงไม้ดอกไม้ใบประดับกันอย่างมากที่สุด เพราะชวนชมเป็นพันธุ์ไม้ที่ปลูกเลี้ยงกันง่ายในสภาพอากาศร้อน ทรงต้นดูแปลกตา ให้ดอกชมกันตลอดปี และสีสันดอกสดใสสวยงามยิ่งมีการผสมพันธุ์จนได้ชวนชมต้นใหม่ที่แตกต่างออกไปจากต้นพ่อพันธุ์ต้นแม่พันธุ์ ทำให้มีชวนชมดอกสีแปลกๆ และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายมากขึ้น
ชวนชม หรือที่เรียกกันว่า ลั่นทมยะวา เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในแอฟริกาตะวันออก แถบแทนซาเนีย เคนยา และ ยูกันดา สามารถทนแล้งอยาในทะเลทรายได้เพราะเป็นพืชอวบน้ำจนได้ชื่อว่าเป็นกุหลาบแห่งทะเลทราย ( Desert Rose)
การแยกประเภทสายพันธุ์ชวนชม แบ่งออกเป็น 5 สายพันธุ์ดังนี้
   1.Adenium obesum ssp. boehmianum (Schinz) G. Rowley
   ใบใหญ่ ปลายใบกลมหรือมน มีรอยเว้าแหลม ขอบใบปิดเป็นคลื่น ดอกสีชมพูถึงสีม่วง สีม่วงเข้มในส่วนของกลีบดอกที่เชื่อมกันเป็นหลอด พบในนามิเบีย และ ทางตอนใต้ของอังโกลา
   2. Adenium obesum ssp.oleifolium (Stapf) G. Rowley
   ส่วนโคนต้นที่แข็งแรงและมีเนื้อไม้อยู่ใต้ดินลำต้นส่วนที่อยู่เหนือดินมีลักษณะผอมยาวและมีเนื้ออ่อน ใบรูปแถบขนาด 5´30 เซนติเมตร สีเขียวอมเทา แผ่นใบมีขนสั้นปกคลุม
4 Adenium obesum ssp. somalense (Balf. f.) G. Rowley
มีชื่อสามัญว่า Mock-azalea ไม้ยืนต้นขนาดเล็ก ใบรูปลูกศรแคบยาว แผ่นใบเกลี้ยง ยาวประมาณ 6 เซนติเมตร หรือรูปไข่ ใต้ใบสีเขียวนวล ดอกเล็กมีสีขาวถึงสีชมพู พบในเขตตะวันออกของแอฟริกา เคนยา โซมาลีแลนด์ และเอเดน
5. Adenium obesum ssp. swazicum  (Stapf) G. Rowley
   มีชื่อสามัญว่า White Impala Lily ลำต้นส่วนโคนที่แข็งอยู่ใต้ดินบางส่วน ใบกว้างรูปหอกกลับ หรือรูปไข่ แผ่นใบหนา ใบอ่อนมีขนอ่อนเล็กๆปกคลุมใต้ใบ ดอกอ่อนบริเวณปลายยอดเป็นกลุ่ม ดอกสีขาว หลอดดอกสีแดงเข้ม พบในสวาซิแลนด์ ทรานสวาลล์ และโมซัมบิก


#4
ไม้ล้มลุก / บานเช้า สีขาว รหัส 7-34190-001-248
22 มิถุนายน 2013, 10:42:29 ก่อนเที่ยง
บานเช้า สีขาว รหัส 7-34190-001-248   
ชื่อวิทยาศาสตร์  Turnera subulata G.E.Sm.
ชื่อวงศ์    TURNERACEAE
ลักษณะวิสัย
เป็นไม้ล้มลุกมีเนื้อไม้ แตกกิ่งก้านมากและมักโค้งลงสู่พื้นปรกคลุมดิน กิ่งอ่อนมีขนสั้นอ่อนนุ่มสีขาวเกาะติดจำนวนมาก การเกาะติดของใบบนกิ่งแบบเวียน ใบเดี่ยวทรงรีสีเขียว ปลายแหลม โคนเรียวแหลม ขอบใบเป็นหยักแบบฟันเลื่อย มีหูใบขนาดเล็กทรงสามเหลี่ยมสีเขียวปลายสีเหลือง ก้านใบสีเขียวอ่อนอมเหลือง ดอกออกเดี่ยวที่ซอกใบบริเวณปลายกิ่ง กลีบดอกมี 5 กลีบ โคนกลีบสีม่วงดำ กลางสีเหลือง ปลายสีขาว ดอกบานตอนเช้าเมื่อมีแสงแดดแล้ว ตอนเย็นจะเหี่ยวหุบเป็นรูปหลอดตั้ง ผลทรงกลมปลายแหลม แห้งแล้วแตกเป็น 3 พู เมล็ดทรงกลมขนาดเล็กจำนวนมาก
การใช้ประโยชน์ด้านภูมิสถาปัตย์ให้ความรู้สึกเป็นแนวบังสายตาที่เป็นดอกไม้สีขาวแต้มดำให้ความรู้สึกเป็นกระถางดอกไม้ขนาดใหญ่กลางสนามหญ้าช่วยลดความเขียวและเพิ่มความสว่างของสนามและอาคาร
#5
ไม้พุ่ม / ยาหยีย่าหยา รหัส 7-34190-001-247
22 มิถุนายน 2013, 10:41:25 ก่อนเที่ยง
ยาหยี หยีย่าหยา

ชื่อวิทยาศาสตร์: Asystasia gangetica (L.) T. Anders.
ชื่อสามัญ: Chinese violet; Coromandel; Ganges primrose; Philippine violet

การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์
อาณาจักร: Plantae
ส่วน: Magnoliophyta
ชั้น: Magnoliopsida
ตระกูล: Scrophulariales
วงศ์: Acanthaceae
สกุล: Asystasia
ชนิด: Asystasia gangetica

ชื่อวิทยาศาสตร์ Asystasia gangetica (Linn) T. Anders.
วงศ์ ACANTHACEAE
ชื่อสามัญ Indian Asystasia
ชื่ออื่นๆ ย่าหยา (กรุงเทพฯ) ผักกูดเน่า (เชียงใหม่)
ไม้พุ่ม สูง ๑-๑.๕ เมตร ใบ ใบเดี่ยว ออกด้านตรงข้าม รูปไข่หรือรูปหัวใจ กว้าง ๒-๓ เซนติเมตร ยาว ๒.๕-๑๐ เซนติเมตร ปลายแหลม โคนมนหรือเว้า ผิวใบด้านบนเป็นมัน
ด้านล่างมีขนนุ่ม ดอก สีขาวหรือม่วงอ่อน ออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง กลีบดอกโคนเชื่อมกันเป็น
รูปถ้วย ปลายแยกเป็น ๕ กลีบ เมื่อบานเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ ๒.๕-๑๐ เซนติเมตร มีขนเมื่อแก่แตกได้
นิเวศวิทยา ถิ่นกำเนิด อินเดีย ศรีลังกา ชอบที่ชุ่มชื้น
ออกดอก ตลอดปี
ขยายพันธุ์ เมล็ด

#6
ปรง / ปรงเขา รหัส 7-34190-001-246
22 มิถุนายน 2013, 10:03:39 ก่อนเที่ยง
ปรงเขา รหัส 7-34190-001-246
ชื่อวิทยาศาสตร์  Cycas pectinata Buch.-Ham
ชื่อวงศ์ CYCADACEAE                   
ชื่ออื่น   กูดหลวา (แม่ฮ่องสอน); มะพร้าวเต่าดอย, มะพร้าวเต่าหลวง (ภาคเหนือ)
ปรงที่มีลำต้นสูงได้ถึง 12 เมตร บางครั้งแตกกิ่วสาขา มีลักษณะเด่นที่มีโคนเพศผู้ขนาดใหญ่ และมีใบสร้างอับไมโครสปอร์ยาวแคบปลายเป็นหนามยาว และมีใบสร้างอัปเมกาสปอร์ที่แยกเป็นแฉกคล้ายซี่หวี ตามชื่อชนิด (มาจากภาษาลาติน pectina = a comb หวี) ปรงเขามีเขตการกระจายพันธุ์กว้างตั้งแต่เนปาล ภูฏาน จีนตอนใต้ (ยูนนาน) พม่า ลาว เวียดนาม และทางภาคเหนือของไทย ขึ้นตามป่าเบญจพรรณ ป่าดิบแล้ง และป่าดิบเขา ระดับความสูง 600-1300 เมตร อนึ่งในหนังสือรายชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย และหนังสือพรรณพฤกษชาติของประเทศไทย ใช้ว่า C. pectinata Griff. ซึ่งไม่ถูกต้อง [/font][/font][/size]