งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน โรงเรียนวารินชำราบ สพม. เขต 29

โทงเทง ปุงปิง หญ้าต้อมต้อก รหัส 7-34190-001-235
ชื่อภาษาไทย          โทงเทง ปุงปิง หญ้าต้อมต้อก
ชื่อภาษาอังกฤษ         Sunberry, Gooseberry
ชื่อวิทยาศาสตร์         Physalis minima Linn.
วงศ์             SOLANACEAE                         
    เป็นไม้ตระกูลเดียวกับกริกและมะเขือต้นสูงตั้งแต่25-50เซนติเมตรลำต้น ตอนโคนสีม่วงแดงและสีค่อยจางลงจนถึงยอดยอดสีเขียวอ่อนเป็นไม้เนื้อ อ่อนอายุเพียง1-2ปีใบเดี่ยวออกตามข้อๆละใบลักษณะใบคล้ายพริกดอกออก ที่ระหว่างก้านใบกับลำต้นดอกเล็กๆคล้ายดอกพริกสีเหลืองอ่อนกลีบดอกชั้น นอกสีเขียวกลีบดอกชั้นในสีเหลืองอ่อนเมื่อกลีบดอกชั้นในร่วงแล้วกลีบดอก ชั้นนอกจะเจริญเติบโตขยายตัวหุ้มไว้หลวมๆทำให้ดูเสมือนว่าผลพองพบ ทั่วไปเจริญงอกงามในดินปนทรายออกดอกตั้งแต่กุมภาพันธ์เรื่อยไปจน ถึงพฤศจิกายน
ผลสุกรับประทานได้ มีรสหวานเอียน

ไผ่เลี้ยง รหัส 7-34190-001-240
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Bambusa multiplex (Lour.) Raeusch.
ชื่อวงศ์ : POACEAE 
ชื่อสามัญ : Hedge bamboo
ชื่อพื้นเมือง : ไผ่สร้าง ไผ่เชียงไพร ไผ่สร้างไพร เพ็ก
ชนิดพืช [Plant Type] : ไม้พุ่ม
ลักษณะทั่วไป (Characteristic) : พืชล้มลุกอายุหลายปี  เป็นไม้พุ่มเป็นกอ  ลำต้นตั้งตรง กลม  เป็นทรงกระบอกกลวง ขนาด 1- 4.5 เซนติเมตร  ผิวเกลี้ยง  สีเขียว ไม่มีหนาม เนื้อเเข็ง มีช้อปล้องชัดเจน แต่ละปล้องยาว 20- 30 เซนติเมตร  มีเหง้าใต้ดินสั้น ไม่ทอดขนานไปทางระดับ
ใบ (Foliage) : ใบเดี่ยว เรียงสลับ 2 แถว ใบรูปหอก กว้าง 0.5-1.5 เซนติเมตร ยาว 2.5-15 เซนติเมตร
ปลายใบแหลม  โคนใบสอบ ขอบใบเรียบคม  แผ่นใบสีเขียว  มีกาบหุ้มลำต้น หนาแช็งไม่แนบชิดลำต้น
หลุดร่วงไปเมื่อแก่ ยอดกาบหนาแข็งมักมีขนคายทางด้านในมีติ่งกาบเห็นชัดเจน ตอนปลายกาบตรงที่
ต่อกับใบจะมีลิ้นใบ
การใช้งานด้านภูมิทัศน์ (Landscape Used) : ทรงพุ่มสวย  ปลูกเป็นฉากหลัง  บังสายตา  เป็นแนวรั้ว กันลม
ปลูกตามแนวทางเดินหรือถนนขนาดเล็กในสวนสาธารณะหรือรีสอร์ท

นีออน รหัส7-34190-001-239
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Leucophyllum frutescens (Berl.)
I.M. Johnst.                                               
ตระกูล                SCROPHULARIACEAE
ชื่อสามัญ             Barometer Bush, Ash Plant
ถิ่นกำเนิด         เม็กซิโก
ชนิดพืช [Plant Type] : ไม้พุ่ม     
ลักษณะทั่วไป (Characteristic) :    ไม้พุ่มขนาดเล็ก  ลำต้นแตกกิ่งก้านจำนวนมาก   กิ่งชูตั้งขึ้น  ทรงพุ่มแน่นทึบ
ใบ (Foliage) :   ใบเดี่ยว เรียงเวียนสลับ ใบรูปไข่กลับถึงรูปรี  กว้าง 1-1.5 เซนติเมตร   ยาว 2-2.5 เซนติเมตร ปลายใบมน   โคนใบสอบ ขอบใบเรียบ ผิวใบด้านบนสีเขียวอมเทา  มีขนยาวนุ่มปกคลุม  มักบิดห่อขึ้นเล็กน้อย
ดอก (Flower) :     สีม่วงสดถึงสีชมพูอมม่วงแดง   ออกดอกเดี่ยวตามซอกใบที่ปลายกิ่ง    โคนกลีบดอกเชื่อม
ติดกันเป็นหลอด  ปลายแยกเป็น 5 แฉก  มีขนอ่อนนุ่มขนาดเล็กปกคลุม  ดอกบานเต็มที่กว้าง 1-2 เซนติเมตร
ผล (Fruit) : ผลแห้งแตก
การใช้งานด้านภูมิทัศน์ (Landscape Used) :      ดอกสวย   ปลูกเป็นต้นเดี่ยวหรือปลูกเป็นกลุ่มแล้วตัดเเต่งก็ได้ ปลูกเป็นไม้ประธานสวนหย่อม ปลูกริมทะเล ไม่ควรปลูกในร่มเพราะใบจะเขียวและออกดอกน้อยกว่าปลูกกลางแจ้ง

กระเทียมเถา  รหัส 7-34190-001-139
ชื่อวิทยาศาสตร์ :  Pachyptera hymenaea., A. Gentry
ชื่อวงศ์ :  BIGNONIACEAE
ชื่อสามัญ :    Garlic Vine
ชื่อพื้นเมือง:    -
ลักษณะทั่วไป:
    ต้น    เป็นไม้เถาเลื้อยเนื้อแข็ง ขนาดกลาง มีลำต้นเป็นเถาใหญ่ แข็งแรง สามารถเลื้อยไปได้ไกลมากกว่า 10 เมตร เถาอ่อนและส่วนยอดจะเป็นสีเขียว ส่วนเถาแก่จะเป็นสีน้ำตาล ผิวเรียบเกลี้ยง
    ใบ    มีใบประเภทใบประกอบ มีใบย่อย 1 คู่ ออกตรงข้ามกันตามข้อต้น เป็นไม้ใบบางแต่แข็งกระด้างใบรีหรือมน หรือใบรูปไข่ขอบใบเรียบ ปลายใบและโคนใบแหลม ก้านใบสั้น มีมือเกาะอยู่ระหว่างใบย่อยแต่ละคู่ในขณะที่ใบยังอ่อน
    ดอก    ออกเป็นช่อตามข้อต้น หรือตามโคนกาบใบ ช่อหนึ่งจะมีประมาณ 10-20 ดอก กลีบเลี้ยง 5 กลีบลักษณะดอกจะเป็นรูปกรวยปากบาน หรือรูปแตร มีกลีบดอกแยกออกเป็น 5 กลีบ เมื่อดอกบานใหม่ ๆ จะเป็นสีขาว แล้วจะกลายเป็นสีชมพูและสีม่วง เมื่อแก่จัด มีเกสรตัวผู้ภายในดอก 4 อัน สั้น 2 อัน และยาวอีก 2 อัน ในช่วงที่ออกดอก กระเทียมเถาจะทิ้งใบหมด
    ฝัก    แบน กว้าง รูปขอบขนาน ปลายแหลม ฝักแก่จะแตกออกตามรอยประสานทั้ง 2 ด้าน
    เมล็ด    มีจำนวนมาก แบน ด้านข้างมีปีกบางใสทั้ง 2 ด้าน
ฤดูกาลออกดอก:    ออกดอกปีละครั้ง เดือน พฤศจิกายน - กุมภาพันธุ์ หรือออกดอกในช่วงฤดูฝน-ฤดูหนาว
การขยายพันธุ์:   การปักชำ การตอน การทาบกิ่ง  และเพาะเมล็ด
การปลูก:  ปลูกลงดิน โดยไม่นิยมปลูกลงกระถางและเหมาะที่จะปลูกตามซุ้มประตูบ้าน ริมรั้วบ้าน หรือสวนภายในบ้าน และสวนสาธารณะ เป็นต้น
การดูแลรักษา:  ปลูกในดินร่วนปนทราย หรือในดินร่วนซุย ชอบแสงแดดจัด ต้องการน้ำปานกลาง
ส่วนที่มีกลิ่นหอม:    ใบมีกลิ่นคล้ายกระเทียม
การใช้ประโยชน์:   
    -  ไม้ประดับ
    -  บริโภค
ถิ่นกำเนิด:    เม็กซิโก ถึงบราซิล
แหล่งที่พบ:    ทุกภาคของประเทศไทย
ส่วนที่ใช้บริโภค:    ใบอ่อน
การปรุงอาหาร:    ใบอ่อน นำมารับประทานเป็นผักสดร่วมกับน้ำพริก

กระสัง รหัส 7-34190-001-140
ชื่อวิทยาศาสตร์ Peperomia pellucida (L.) Humb., Bonpl & Kunth
ชื่ออื่นๆ   ผักกะสัง  ชากรูด  ตาฉี่โพ  ผักกูด  ผักราชวงศ์  ผักสังเขา  ผักฮากกล้วย
ชื่อสามัญ   Peperomia, Shiny leave
วงศ์ Piperaceae
-ลักษณะพฤกษศาสตร์  เป็นพืชล้มลุกอวบน้ำ สูงประมาณ 20 - 60 ซม. ลำต้นขาวใส ตั้งตรง แตกกิ่งมาก กิ่งที่โค้งลงแนบติดกับพื้นดินสามารถเกิดรากที่บริเวณข้อได้ การเกาะติดของใบบนกิ่วแบบสลับ ใบเดี่ยวรูปไข่ถึงสามเหลี่ยม ขนาดโดยประมาณ กว้าง 1 - 3 เซนติเมตร ยาว 1 - 4 เซนติเมตร ผิวใบด้านบนเป็นมัน ด้านล่างขุ่นและสีอ่อนกว่า ดอกออกเป็นช่อที่ซอกและปลายกิ่ง ดอกย่อยขนาดเล็กมาก ไม่มีกลีบเลี้ยงและกลีบดอก ผลสดรูปทรงกลม เมล็ดสีดำทรงกลมขนาดเล็ก
-สรรพคุณยาไทย หมอยาพื้นบ้านมักจะใช้ผักกระสังตำพอกฝี หรือคั้นเอาน้ำทาแผลฝีที่มีหนอง ผักกระสังมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ ใบยังนำมารักษาโรคลักปิดลักเปิด แก้ไข้ แก้อักเสบ จากสรรพคุณตรงนี้ทำให้มีชาวบ้านกินผักกระสัง เพื่อรักษาอาการปวดข้อ ข้ออักเสบ และยังเชื่อว่าการใช้น้ำต้มผักกระสังล้างหน้าจะทำให้ผิวสวย ปัจจุบันมีการศึกษาทางวิทยาศาสตร์พบว่าผักกระสังมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย มีฤทธิ์ต้านการอักเสบมีฤทธิ์แก้ปวด และไม่มีพิษภัย

กระถิน รหัส 7-34190-001-138
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Leucaena leucocephala (Lam.) de Wit
ชื่อวงศ์ : MIMOSACEAE
ชื่อสามัญ : Horse tamarind, Leucaena
ชื่อพื้นเมือง : กระถินไทย กระถินบ้าน กระถินยักษ์ กะเส็ดโคก  กะเส็ดบก  ตอเบา  สะตอเทศ  สะตอเบา ผักก้านถิน ผักหนองบก
ลักษณะทั่วไป (Characteristic) :       ไม้ต้นขนาดเล็กสูง  3-10 เมตร  ไม่ผลัดใบ  เรือนยอดเป็นรูปไข่หรือกลม เปลือกเรียบสีเทา   มีปุ่มนูนของรอยกิ่งก้านที่หลุดร่วงไป
ใบ(Foliage) :   ใบประกอบแบบขนนกสองชั้น  เรียงสลับ ยาว 12.5-25 เซนติเมตร แกนกลางใบประกอบมีขนแยกแขนง 3-10 คู่  เรียงตรงข้าม  ยาว 5-10 เซนติเมตร  ใบย่อย 5-20 คู่ เรียงตรงข้าม ใบรูปขอบขนาน กว้าง2-5 มิลลิเมตร ยาว 0.6-2.1 เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคนใบเบี้ยว ชอบใบมีขน เส้นแขนงใบข้างละ 5-6 เส้น ก้านใบย่อยยาว 1 มิลลิเมตร
ดอก (Flower) :  สีขาว  ออกเป็นช่อแบบช่อกระจุกแน่นตามซอกใบและปลายกิ่ง 1-3 ช่อ กลีบเลี้ยงโคนติดกันเป็นรูประฆัง ปลายแยกเป็นสามเหลี่ยมเล็ก 5 แฉก มีขน กลีบดอก 5 กลีบ เกสรเพศผู้ 10 อัน ช่อดอกบานเต็มที่กว้าง 2-2.5 เซนติเมตร
ผล (Fruit) :  ผลเป็นฝักแบนแห้งแตก   กว้าง 1.5-2 เซนติเมตร ยาว 10-20 เซนติเมตร โคนสอบ ปลายแหลม เมล็ดเรียงตามขวาง 15-30 เมล็ด สีน้ำตาลเป็นมัน
ประโยชน์ : ยอดอ่อนและฝักอ่อนใช้กินเป็นผักได้ เมล็ดนำมาทำเครื่องประดับ ส่วนต่างๆเป็นอาหารของสัตว์ เปลือก
ให้เส้นใยทำกระดาษได้ ดอกบำรุงตับ รากช่วยชับลม ชับระดูขาว

กระดุมทอง รหัส 7-34190-001-136
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Melampodium divaricatum (Pers.) DC.
ชื่อวงศ์ : ASTERACEAE 
ชื่อสามัญ : Little yellow star
ชื่อพื้นเมือง : พิกุลทอง
ชนิดพืช [Plant Type] : ไม้พุ่ม
ลักษณะทั่วไป (Characteristic) : ไม้พุ่มขนาดเล็ก มีอายุสั้นประมาณสองปี ตามลำต้นมีขนสากมือ
ใบ (Foliage) :    ใบเดี่ยว   เรียงตรงข้าม ใบรูปรีกว้างหรือรูปไข่ กว้าง 1-5 เซนติเมตร  ยาว 3-10 เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคนใบสอบ  ขอบเรียบหรือหยักซี่ฟัน  แผ่นใบมีขนสากทั้งสองด้าน  ก้านใบสั้นมีครีบ มีขนตามก้านใบ
ดอก (Flower) :    สีเหลือง  มีกลิ่นเหม็น ออกดอกเดี่ยวหรือออกเป็นคู่ตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง  โคนช่อดอกมีใบประดับรูปรีเรียงซ้อนกัน 2 ชั้น ชั้นนอก 3-5 ใบโคนเชื่อมติดกัน ชั้นในหุ้มผลไว้ ขอบใบประดับมีขนเรียงกันถี่ กลีบดอกรูปรี ดอกบานเต็มที่กว้าง 2-3 เซนติเมตร
ผล (Fruit) : ผลแห้งแตก รูปสามเหลี่ยมยอดแบน เมล็ดเล็ก สีดำเป็นมัน
การใช้งานด้านภูมิทัศน์ (Landscape Used) : ปลูกลงกระถาง หรือปลูกลงแปลงประดับสวน

พุตตาน รหัส 7-34190-001-234   
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Hibiscus mutabilis L.
ชื่อวงศ์ : MALVACEAE               
ชื่อสามัญ : Rose of Sharon, Cotton rose hibiscus,
Changeable  rose  mallow,    Confederate  rose
mallow
ชื่อพื้นเมือง : ดอกสามสี ดอกสามผิว
ชนิดพืช [Plant Type] : ไม้พุ่ม
ลักษณะทั่วไป (Characteristic) : ไม้พุ่มขนาดกลาง ลำต้นและกิ่งก้านมีสีเทา มีขนปกคลุม
ใบ (Foliage) :   ใบเดี่ยว  เรียงสลับ  ใบรูปไข่   กว้าง 9-20 เซนติเมตร  ยาว 10-22 เซนติเมตร ปลายใบแหลม
โคนใบรูปหัวใจ  ขอบใบเว้าลึก 3-5 แฉก  แผ่นใบสีเขียวค่อนข้างหนา   มีขนปกคลุมทั่วใบ สากมือ
ดอก (Flower) : สีขาว ชมพูและชมพูเข้ม ออกดอกเดี่ยวตามซอกใบที่ปลายกิ่ง กลีบเลี้ยง 5 กลีบ มีขน กลีบดอก
มีทั้งแบบชั้นเดียว หรือซ้อนกัน กลีบดอกเปลี่ยนสีไปตามอุณหภูมิของวัน ในตอนเช้าสีขาว กลางวันสีชมพู   และ
ตอนเย็นเป็นสีชมพูเข้ม ยอดเกสรเพศเมียสีเหลือง ขนาด 8-12 เซนติเมตร ดอกบานเต็มที่กว้าง 8-12 เซนติเมตร
ผล (Fruit) :   ผลแห้ง  ทรงกลมมีจะงอย  ขนาดประมาณ 2 เซนติเมตร เมื่อแก่แล้วแตกเป็น 5 แฉก เมล็ดรูปไต มีขนยาว
การใช้งานด้านภูมิทัศน์ (Landscape Used) :    ปลูกบังกำแพง หรือทิวทัศน์ที่ไม่น่าดู  ดอกสวยมากมีทั้งดอกลา
และดอกซ้อน เหมาะกับสวนไทย
ประโยชน์ : ใบแห้งผสมกับน้ำผึ้งใช้ทารักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวกได้

หูกระต่าย รหัส 7-34190-001-233
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Acalypha wilkesiana Mull.Arg.
วงศ์ : EUPHORBIACEAE
ชื่อสามัญ Copper Leaf
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้น เป็นพรรณไม้ล้มลุก มีลำต้นตั้งตรง มีความสูงประมาณ 4-18 นิ้ว ลำต้นปกคลุมด้วยขนนุ่มทั่วไป
ใบ ใบมีลักษณะหุ้มห่อลำต้นอยู่ มีขนาดยาวประมาณ 2-3 นิ้ว ปลายใบแหลมเรียว โคนใบกว้างเป็นรูปไข่ ริบขอบใบหยักเว้า หลังใบเป็นสีเขียวเข้มใต้ท้องใบมีสีม่วงแดง
ดอก ดอกออกเป็นช่อ ตามบริเวณกลางลำต้น ช่อหนึ่งจะแยกออกเป็น 2 แขนง ลักษณะของดอกขนาดเล็ก กลีบดอกส่วนโคนจะเชื่อมติดกันเป็นรูปท่อ ดอกมีสีแดง เป็นดอกสมบูรณ์เพศ
ผล เป็นผลเดี่ยว เปลือกแข็ง ผลแห้งจะไม่แตกหรืออ้าออก

ปรงญี่ปุ่น รหัส 7-34190-001-232 
ชื่อพื้นเมือง ปรงญี่ปุ่น
ชื่อวิทยาศาสตร์ Cycas revoluta    Thunb
ชื่อสามัญ   Sago Plam
ชื่อวงศ์ CYCADACEAE
ลักษณะ
ต้นคล้ายปาล์ม สูง 2-4 ม. ลำต้นตรง แตกกิ่งก้านสาขา
ใบใบโค้งเป็นทางยาวแบบขนนก ใบย่อยแคบแข็ง ปลายแหลม สีเขียวเข้มเป็นมันขอบใบม้วนเข้าหากลางใบ
การกระจายพันธุ์  มีถิ่นกำเนิดที่ญี่ปุ่น
ประโยชน์  ปลูกเป็นไม้ดอกไม้ประดับ
หัว แก้ฟกช้ำ แก้แผลเรื้อรัง ต้นสระผมรักษารากผม

หญ้าพันงูแดง รหัส 7-34190-001-231
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cyathula prostrata Blume
วงศ์ : AMARANTHACEAE
ชื่ออื่น :  อั้งเกย; หญ้าพัน***งู; ซั้งพี (แต้จิ๋ว;
ลักษณะทางพฤกศาสตร์
ลำต้น เป็นไม้ล้มลุกขนากเล็กสูง 1-2.5 ฟุต ลำต้นมีลักษณะเป็นข้อ มีสีแดง ผิวเปลือกลำต้นเรียบเกลี้ยง หรือมีขนเล็กน้อย
ใบ ใบเป็นใบเดี่ยว ออกตรงข้ามกันเป็นคู่ ลักษณะของใบเป็นเหลี่ยม โคนใบมน ปลายแหลม ริมขอบใบเรียบไม่มีหยัก ใบมีขนาดกว้างประมาณ 1.5-5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 2.3-9 เซนติเมตร
ดอก ดอกออกเป็นช่อตั้งตรง ตามบริเวณปลายยอด ช่อดอกยาว ประมาณ 7.5-18 นิ้ว ลักษณะของดอกมีสีเขียวอ่อน ปลายช่อมีดอกออกเป็นกระจุก รวมกัน โดยช่อจะมีดอกห่างกัน
ถิ่นกำเนิด/แหล่งที่พบ/ระบบนิเวศน์พบขึ้นในที่ร่มทั่วๆ ไปและตามชายป่า
สรรพคุณตามตำรายาไทย
ส่วนที่ใช้และสรรพคุณ   
ทั้งต้น : ใช้ลำต้นสด นำมาต้มเอาน้ำกินเป็นยาแก้ไอ ขับปัสสาวะ แก้เบื่อเมา แก้บิด ขับโลหิต แก้นิ่ว ขับเสมหะ หรือใช้ภายนอกนำมาตำพอก หรือทาแก้โรคผิวหนัง ถูกตะขาบกัด เป็นต้น
วิธีทำ/วิธีใช้   ต้มเอาน้ำกิน

เข็มเชียงใหม่  รหัส 7-34190-001-236
ชื่อวิทยาศาสตร์ /: Ixora stricta Roxb.
ชื่อวงศ์ : RUBIACEAE
ชื่อพื้นเมือง : เข็มแดง เข็มเชียงใหม่
ลักษณะวิสัย : ไม้พุ่ม
ลักษณะพิเศษของพืช : ไม้ดอกประดับ
ชนิดพืช [Plant Type] : ไม้พุ่ม
ลักษณะทั่วไป (Characteristic) : ไม้พุ่มขนาดเล็ก แตกกิ่งก้านจำนวนมาก ทรงพุ่มแน่นทึบ
ใบ (Foliage) :     ใบเดี่ยว   เรียงตรงข้ามสลับตั้งฉาก ใบรูปขอบขนาน   กว้าง 1-1.5 เซนติเมตร   ยาว 2-3 เซนติเมตร   ปลายใบแหลม  โคนใบมน  ขอบใบเรียบ  แผ่นใบสีเขียวเป็นมัน
ดอก (Flower) :    สีแดงอมส้ม  ออกเป็นช่อกระจุกซ้อนที่ปลายกิ่ง   โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอดยาว
ประมาณ 2.5 เซนติเมตร  ปลายแยก 5 แฉก   ดอกมีขนาดเล็กและสั้นกว่าเข็มชนิดอื่น
การใช้งานด้านภูมิทัศน์ (Landscape Used) : ตัดแต่งทรงพุ่มได้ สูงตั้งแต่ 0.30-1.00 เมตร นิยมปลูกเป็นขอบ
แปลง แนวรั้ว ริมถนน สระว่ายน้ำ ริมทะเล ทนต่อสภาพแวดล้อมต่างๆได้ดี

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Bambusa multiplex (Lour.) Raeusch.
ชื่อวงศ์ : POACEAE 
ชื่อสามัญ : Hedge bamboo
ชื่อพื้นเมือง : ไผ่สร้าง ไผ่เชียงไพร ไผ่สร้างไพร เพ็ก
ชนิดพืช [Plant Type] : ไม้พุ่ม
ลักษณะทั่วไป (Characteristic) : เป็นไผ่  เป็นกอ  ลำต้นตั้งตรง กลม  เป็นทรงกระบอกกลวง ขนาด 1- 4.5 เซนติเมตร  ผิวเกลี้ยง  สีเขียว ไม่มีหนาม เนื้อเเข็ง มีช้อปล้องชัดเจน แต่ละปล้องยาว 20- 30 เซนติเมตร  มีเหง้าใต้ดินสั้น ไม่ทอดขนานไปทางระดับ
ใบ (Foliage) : ใบเดี่ยว เรียงสลับ 2 แถว ใบรูปหอก กว้าง 0.5-1.5 เซนติเมตร ยาว 2.5-15 เซนติเมตร
ปลายใบแหลม  โคนใบสอบ ขอบใบเรียบคม  แผ่นใบสีเขียว  มีกาบหุ้มลำต้น หนาแช็งไม่แนบชิดลำต้น
หลุดร่วงไปเมื่อแก่ ยอดกาบหนาแข็งมักมีขนคายทางด้านในมีติ่งกาบเห็นชัดเจน ตอนปลายกาบตรงที่
ต่อกับใบจะมีลิ้นใบ
การใช้งานด้านภูมิทัศน์ (Landscape Used) : ทรงพุ่มสวย  ปลูกเป็นฉากหลัง  บังสายตา  เป็นแนวรั้ว กันลม
ปลูกตามแนวทางเดินหรือถนนขนาดเล็กในสวนสาธารณะหรือรีสอร์ท
ประโยชน์ : ใช้ทำกระดาษ ทำเครื่องจักสานทำบันได โป๊ะ แม่บันได และทำเฟอร์นิเจอร์ หน่อนำมาปรุงอาหาร
ได้หลายวิธี เช่น นำมาแกง ต้ม ผัดและดองใส่น้ำพริก ยำหน่อไม้ ลำต้นเรียวเหมาะสำหรับทำคันเบ็ดได้

ชบาด่าง  รหัส 7-34190-001-238 
ชื่อสามัญ : Snowflake Hibiscus
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Hibiscus rosa-sinensis L.
'Cooperi'
ชื่อพื้นเมือง : ชบาใบด่าง ชบาสามสี
ชื่อวงศ์ : MALVACEAE
ชนิดพืช [Plant Type] : ไม้พุ่ม
ลักษณะทั่วไป (Characteristic) : ไม้พุ่มขนาดเล็ก ลำต้นตั้งตรง แตกกิ่งก้านจำนวนมาก เปลือกสีเทาปนน้ำตาล
ใบ (Foliage) : ใบเดี่ยว เรียงสลับ ใบรูปไข่ถึงรูปขอบขนาน กว้าง 5-9 เซนติเมตร ยาว 7-12 เซนติเมตร ปลาย
ใบ แหลมถึงมน  โคนใบมน  ขอบใบจักฟันเลื่อย   ผิวใบด้านบนมีทั้งด่างสีแดงและสีขาว   พันธุ์ที่มีใบด่างสีแดง
จะมีสีเขียวปนแดงเกือบทั้งใบ   ส่วนพันธุ์ที่มีใบด่างสีขาว จะมีสีเขียวปนเขียวอ่อน   กิ่งก้านมีสีเขียวปนแดงเรื่อ ก้านใบยาว 2-4 เซนติเมตร
ดอก (Flower) : สีแดง ออกเป็นดอกเดี่ยวตามซอกใบที่ปลายกิ่ง มีทั้งกลีบดอกชั้นเดียวเเละดอกซ้อน กลีบดอก บาง   โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอด   ปลายแยก 5 กลีบ   ปลายกลีบหยักเป็นคลื่น  ดอกบานเต็มที่กว้าง
7-15  เซนติเมตร
ผล (Fruit) : ผลแห้งแตก รูปไข่กลับ ขนาดประมาณ 3 เซนติเมตร เมล็ดเล็กมีขนาด 3-5 มิลลิเมตร
การใช้งานด้านภูมิทัศน์ (Landscape Used) : ดอกสวยมีสีสัน ปลูกเป็นแปลงขนาดใหญ่ ปลูกในสวนสาธารณะ ตัดแต่งทรงพุ่มทำรั้วได้ ปลูกริมถนน ริมทางเดิน ริมน้ำตก ลำธาร สระว่ายน้ำ ริมทะเล
ประโยชน์ : ใช้ในการจัดสวน เป็นไม้กระถาง ดอกเป็นไม้ดอกประดับ บางคนใช้ทำอาหาร และอุตสาหกรรม,ยารักษาโรค,การประยุกต์ใช้ในเชิงวิทยาศาสตร์

จันทร์กระจ่างฟ้า รหัส 7-34190-001-237
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Mandevilla sp. and hybrid
ชื่อวงศ์ : APOCYNACEAE               
ชนิดพืช [Plant Type] : ไม้เลื้อย
ลักษณะทั่วไป (Characteristic) : ไม้เถาเลื้อย เนื้อแข็ง อายุหลายปี กิ่งอ่อนสีเขียว และมีสีเเดงเรื่อ
ใบ (Foliage) :   ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม รูปรีแกมรูปขอบขนาน กว้าง 4-6 เซนติเมตร  ยาว 7-9 เซนติเมตร ปลายและโคนใบมน ขอบใบเรียบ ผิวใบด้านบนสีเขียวสดเป็นมัน
ดอก (Flower) : สีเหลืองสด ออกเป็นช่อแบบช่อกระจะตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ดอกรูปแตร โคนกลีบดอก
เชื่อมเป็นหลอด ปลายแยก 5 แฉก รูปกลมซ้อนเกยกัน ดอกบานเต็มที่กว้าง 4-5 เซนติเมตร
การใช้งานด้านภูมิทัศน์ (Landscape Used) : ดอกสีเหลืองสะดุดตา ให้ดอกดก ปลูกขึ้นซุ้มขนาดเล็กหรือรั้ว
ตัดแต่งเป็นพุ่มได้ ปลูกเลี้ยงง่าย