• Welcome to งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน โรงเรียนวารินชำราบ สพม. เขต 29.
 

ข่าว:

ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่เว็บไซต์งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนวารินชำราบ

Main Menu

มะค่าโมง รหัส 7-34190-001-566

เริ่มโดย วนิดา ทาประจิตร, 22 มิถุนายน 2013, 09:54:02 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

วนิดา ทาประจิตร

มะค่าโมง
ชื่อวิทยาศาสตร์ Afzelia xylocarpa (Kurz) Craib
วงศ์ LEGUMINOSAE - CAESALPINIOIDEAE
ชื่ออื่น มะค่าใหญ่ มะค่าหลวง
ไม้ต้น  ขนาดใหญ่ แต่สูงไม่มากนัก ผลัดใบ แตกกิ่งต่ำ เรือนยอดเป็นพุ่มกว้าง ลำต้นมักเป็นครีบและปุ่มปม โคนเป็นพูพอน
เปลือก  สีน้ำตาลอ่อนหรือชมพูอมน้ำตาล แตกสะเก็ดเป็นหลุมตื้น ๆ
ใบ  ประกอบเรียงสลับ ใบย่อยติดตรงข้ามกันเป็นคู่ 3 - 5 คู่ แผ่นใบรูปไข่แกมรูป ขอบขนาน กว้าง            2 - 5 เซนติเมตร ยาว 4 - 9 เซนติเมตร โคนใบมนหรือหยักเว้าเล็กน้อยปลายใบทู่เป็นติ่ง
ดอก  ออกรวมกันเป็นช่อตามปลายกิ่ง ช่อยาว 5 - 15 เซนติเมตร กลีบดอกมี 4 กลีบ แต่ละกลีบซ้อนทับกัน มีเพียงกลีบบนสุดเพียงกลีบเดียวที่เจริญขึ้นเป็นกลีบดอกสีแดงเรื่อ ๆ หรือแดงอมชมพู
ผล  เป็นฝักแบนแข็ง รูปบรรทัดสั้น ๆ กว้าง 7 - 10 เซนติเมตร ยาว 12 - 20 เซนติเมตร  แตกออกเป็น 2 ซีก เมื่อแห้ง เมล็ดแก่สีดำเป็นมัน เรียงตามขวาง 4 - 5 เมล็ด   แต่ละเมล็ดมีเยื่อหนารูปถ้วยสีเหลืองสดห่อหุ้ม ส่วนฐานอยู่
นิเวศวิทยา ขึ้นในป่าเบญจพรรณชื้นและป่าดิบแล้งใกล้แหล่งน้ำ ทุกภาคยกเว้นภาคใต้ สูงจากระดับน้ำทะเล 100 -600 เมตร
ออกดอก กุมภาพันธ์ - มีนาคม ฝักแก่ มิถุนายน - สิงหาคม
ขยายพันธุ์ โดยเมล็ด
วิธีปฏิบัติต่อเมล็ดและการเพาะเมล็ด 
  1.  ตัด - ทำแผลที่ปลายเมล็ดแช่น้ำไว้ 1 คืน ก่อนเพาะ
2.   การเพาะอาจเพาะลงถุงพลาสติกหรือเพาะในแปลงเพาะ
ข้อสังเกตและผลการทดลอง 
  1.  เมล็ดจะงอกภายในประมาณ 7 วัน
              2. กล้าจากแปลงเพาะควรย้ายเมื่อเมล็ดเริ่มแทงรากและใบเลี้ยง
              3. ขนาดของกล้าที่พอย้ายปลูกได้อายุประมาณ 3 - 4 เดือนขึ้นไป สูงประมาณ 1 ฟุต
ประโยชน์ เนื้อไม้สีน้ำตาลอมเหลืองอ่อน แข็งเหนียว ทนทานขัดและชักเงาได้ดี ใช้ทำเสา รอด ตรง พื้น ไม้เครื่องบน ต่อเรือ เครื่องกลึง พานท้ายปืนและรางปืน ทำกลองโทน รำมะนา   เป็นไม้ที่ให้ปุ่มมะค่ามีลวดลายสวยงามและราคาสูง   เปลือกทำน้ำฝาดสำหรับฟอกหนัง เมล็ดอ่อนเนื้อในรับประทานได้

นิเวศวิทยา
      ขึ้นประปรายในป่าเบญจพรรณพื้นที่ที่ค่อนข้างชุ่มชื้นทางภาคเหนือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ส่วนภาคตะวันออก และภาคใต้มีขึ้นอยู่มากใน ป่าดงดิบ ป่าน้ำท่วม และตามท้องนา ทั่ว ๆ ไป
ออกดอก     
    กรกฎาคม - กันยายน   ไม่แน่นอนแล้วแต่สภาพพื้นที่และสิ่งแวดล้อม   เก็บเมล็ดได้ประมาณเดือน ธันวาคมขึ้นไป ผลแก่ จะแตกเพื่อโปรยเมล็ดในราวเดือน มีนาคม
ขยายพันธุ์ โดยเมล็ด
วิธีปฏิบัติต่อเมล็ดและการเพาะเมล็ด -
ข้อสังเกตและผลการทดลอง   
    1.  เมล็ดงอกใช้เวลาประมาณ 20 วัน
    2. ภายในระยะเวลาประมาณ 4 เดือน ต้นกล้ามีความสูงประมาณ 20 ซม. สามารถย้ายปลูกได้
ประโยชน์ เนื้อไม้ละเอียดแข็ง ใจกลางมักเป็นโพรง ใช้ทำสิ่งปลูกสร้างที่รับน้ำหนัก   เสา กระดานพื้น และเครื่องมือการเกษตร และนิยมปลูกเป็นไม้ประดับ

http://www.forest.go.th/nursery/PROVINCE_PLANT/SUKOTHAI.HTM

[/font][/size][/size]