• Welcome to งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน โรงเรียนวารินชำราบ สพม. อบอจ..
 

ข่าว:

โรงเรียนได้รวบรวม พืชพรรณ นานาชนิดกว่า 600 ชนิด ที่ถูกรวบรวม เรียบเรียงไว้อย่างเป็นระบบ สืบค้นได้ง่าย

Main Menu
Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - กมล แสวงนาม

#1
ไม้เลื้อย / เถาคัน รหัส 7-34190-001- 350
22 มิถุนายน 2013, 11:34:51 ก่อนเที่ยง
  เถาคัน
ชื่ออื่น เถาคันขาว (ภาคกลาง) เครือหุนแปขาว (อีสาน)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Parthenocissus quinquefolia Planch.
วงศ์ VITIDACEAE
ชื่อสามัญ -
แหล่งที่พบ พบทุกภาคของประเทศ
ประเภทไม้ ไม้เถาเลื้อย
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ต้น เป็นไม้เถาเลื้อยพาดพันตามต้นไม้ใหญ่ เถาสีเขียวขนาดเล็ก มีมือเกาะแตกจากข้อไม่มีขน
ใบ เป็นใบประกอบมีใบย่อย 3 ใบ แตกจากก้านใบจุดเดียวกัน โดยใบย่อยเป็นรูปไข่ โคนใบป้าน ปลายใบค่อนข้างแหลม ขอบใบจักเล็กน้อยสีเขียวเข้ม แผ่นใบเรียบ เส้นกลางใบนูนเห็นเด่นชัด ขนาดกว้าง 2-3 ซม. ยาว 5-10 ซม.
ดอก เป็นดอกช่อแตกออกจากก้านช่อดอกหลักจุดเดียวกัน มีลักษณะคล้ายดอกกระตังบายหรือ ดอกเถาวัลย์ปูน หรือฝิ่นต้น และดอกนั้นจะออกเป็นช่อใหญ่แบนและแน่น ดอกมีขนาดเล็ก ตั้งอยู่บนก้านดอกย่อย แต่ละช่อมี 10-50 ดอก
ผล ทรงกลมสีเขียวจะมีขนาดกลมโตเท่าผลมะแว้ง ผลดิบนั้นจะเป็นสีเขียวใช้กินเป็นอาหารได้ ผลสุกจะเป็นสีดำ ถ้าบีบจะมีน้ำออกมาเป็นสีม่วงทำให้คันมาก

ส่วนที่ใช้บริโภค ยอดอ่อน เถา ใบ
การขยายพันธุ์ เมล็ด
สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ที่ชื้นไม่มีน้ำท่วมขัง
ฤดูกาลที่ใช้ประโยชน์ ตลอดปี
คุณค่าทางอาหาร ยังไม่มีข้อมูล
การปรุงอาหาร ยอดใช้ลวกจิ้มน้ำพริก แจ่ว หรือบริโภคเป็นผักสด
ลักษณะพิเศษ สรรพคุณ เถาใช้ปรุงเป็นยาต้มกิน เป็นยารักษาโรคกษัยทำให้เส้นหย่อน เป็นยาขับลม ขับเสมหะ เป็นยาฟอกเลือด และรักษาอาการฟกช้ำภายใน ใบ นำไปอังไฟพอเหี่ยว ใช้ปิดฝีบ่มหนอง ถ้าฝีนั้นแตกก็จะทำให้ดูดหนอง คล้ายขี้ผึ้งอิดติโยนของฝรั่ง
ลดไข้ ฝาดสมาน แก้กระษัย ขับเสมหะ แก้ช้ำใน แก้ริดสีดวงลำไส้ ขับเลือดเน่า ขับน้ำคาวปลาหลังคลอด ขับลม ดูดหนองที่หัวฝี
#2
ไม้เลื้อย / ตดหมูตดหมา รหัส 7-34190-001- 349
22 มิถุนายน 2013, 11:30:58 ก่อนเที่ยง
ตดหมูตดหมา
ชื่อวิทยาศาสตร์  Paederia linearis Hook. f.
วงศ์ RUBIACEAE
ชื่อสามัญ        ตดหมูตดหมา (ภาคกลาง, ตาก) ; ตำยานตัวผู้ (นครราชสีมา) ; พังโหม (ภาคกลาง); ย่านพาโหม (ภาคใต้) ; หญ้าตดหมา (ภาคเหนือ)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์และเกษตร      การเจริญเติบโตแบบไม้เลื้อย เนื้ออ่อน ลำต้นสีเขียว เส้นผ่าศูนย์กลาง 2.8 – 5.0 มิลลิเมตร ใบรูปใบหอก (lanceolate) กว้าง 1.0 – 2.2 เซนติเมตร ยาว 7.1 – 12.0 เซนติเมตร หน้าใบไม่มีขน แผ่นหลังใบไม่มีขน แต่จะมีขนสั้นๆละเอียดที่มุมเส้นใบตัดกับเส้นกลางใบ ก้านใบยาว 1.2 – 2.3 เซนติเมตร ใบมีสีเขียวถึงเขียวค่อนข้างเข้ม ขอบใบเรียบ (entire) ก้านใบ กิ่งอ่อน ก้านช่อดอกและผลมีขนสั้นๆปกคลุมหนาแน่น ออกดอกเป็นช่อที่ยอด และตามซอกใบ ดอกย่อยจำนวนมาก กลีบดอกด้านนอกสีขาว ด้านในสีม่วงเข้ม รูปกรวยปลายแยกเป็น 5 แฉกและหยักตื้น ผลรูปไข่หรือกลม แบน ผลมีขนาดกว้าง 0.4 – 0.5 เซนติเมตร ยาว 0.5 – 0.7 เซนติเมตร ออกดอกช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคม ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด
แหล่งที่พบและเก็บรวบรวมพันธุ์   พบขึ้นทั่วๆไป อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา (PC 596)
คุณค่าทางอาหาร      มีโปรตีน 12-15 เปอร์เซ็นต์
การใช้ประโยชน์       เป็นอาหาร โค กระบือ สมุนไพร มีกลิ่นเหม็นเขียวเนื่องจากมีสาร Methyl mercaptan เมื่อต้มกลิ่นจะระเหยไป นำมาทำอาหารได้ ทั้งต้น รสขม แก้ตัวร้อน ขับลม แก้ท้องเสีย ขับพยาธิไส้เดือน เป็นยาอายุวัฒนะ ต้มดื่มขับปัสสาวะ ถอนพิษสุรา ยาสูบ พิษจากอาหาร ใบ รสขมแก้พิษงู แก้ปวดฟัน แก้เริม แก้ปวดแสบปวดร้อน ทำเป็นอาหารบำรุงกำลังคนฟื้นไข้ หรือคนชรา ราก รสขมเย็น ฝนหยอดตา แก้ตาฟาง ตาแฉะ ต้มดื่มทำให้อาเจียน ฝนทาแก้ริดสีดวงทวาร ผล ทาฟันทำให้ฟันมีสีดำ แก้ปวดฟัน (วุฒิ, 2540)
#3
ไม้เลื้อย / กระทกรก รหัส 7-34190-001- 348
22 มิถุนายน 2013, 11:22:19 ก่อนเที่ยง
ชื่อพฤกษศาสตร์  :  Passiflora foetida, L.
ชื่อสามัญ               :  Stinking – Passion Flower
ชื่อวงศ์        :  Passifloraceae
ชื่ออื่น ๆ              :  หญ้ารกช้าง  กระโปรงทอง  เถาสิงโต
        กระทกรกเป็นไม้ประเภทเถาเลื้อย  เถาเล็กสีเขียว  ใบเป็นใบเดี่ยว  แยกเป็น ๓ แฉกคล้ายใบตำลึง  ยาวประมาณ ๖ - ๗ ซ.ม.  แผ่นใบมีขนละเอียดปกคลุมจับนุ่มมือออกเป็นข้อ ๆ ละใบสลับข้างกัน  ก้านใบมีขนเห็นได้ชัด  หูใบมีลักษณะเป็นแผ่น  ปลายจักแหลม ๆ ขนาบอยู่ที่ฐานก้านใบ  ระหว่างฐานใบกับลำต้นมีมือเกาะลักษณะเป็นเส้นม้วนงอ  สำหรับเกาะให้เลื้อยขึ้นไปตามรั้วหรือต้นไม้อื่นที่อยู่ใกล้เคียง
        ดอกเป็นดอกเดี่ยว  ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง  ๒ - ๓ เซนติเมตร  มีกาบใบเป็นฝอยร่างแห ๓ กาบ  กลีบเป็นเส้นฝอยละเอียดสีขาว  วงในเป็นสีม่วง  บอกในช่วงเช้าดอกออกตามซอกระหว่างก้านใบกับลำต้น  เมื่อดอกโรยจะติดผล
        ผลมีลักษณะกลมเป็นพู  มีกาบใบเจริญเติบโตตามผลหุ้มผลไว้ผลหนึ่ง ๆ มีหลายเมล็ด  ออกดอกตลอดปี  ผลรับประทานเล่นได้
สรรพคุณด้านสมุนไพร
เนื้อไม้  ใช้เป็นยาควบคุมธาตุ ถอนพิษเบื่อเมาทุกชนิด และใช้รักษาบาดแผล
ใบ  ใช้ตำให้ละเอียดแล้วคั้นเอาน้ำดื่มเป็นยาเบื่อและขับพยาธิ ใช้พอกแก้สิว
ต้น  ใช้ขับปัสสาวะ ขับเสมหะ แก้ไอ และอาการบวม
ดอก  ขับเสมหะ แก้ไอ
ผล  แก้ปวด บำรุงปอด
ราก  ใช้ต้มน้ำดื่มแก้ไข แก้กามโรค

#4
ไม้ล้มลุก / โสมไทย รหัส 7-34190-001- 347
22 มิถุนายน 2013, 11:17:49 ก่อนเที่ยง
ชื่อ โสมไทย
ชื่ออื่น ว่านผักปัง โสมคน
ชื่อวิทยาศาสตร์ Talinum paniculata (Jacq.) Gaertn.
วงศ์ PORTULACACEAE
ชื่อสามัญ -
ประเภทไม้ ไม้ล้มลุก
8. ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ต้น ไม้ล้มลุกอายุเพียงปีเดียว ลักษณะของลำต้นจะเตี้ยแจ้ติดดิน แตกกิ่งก้านที่โคนต้นออกมาบริเวณที่โคนต้นมีเนื้อแข็งคล้ายไม้ ลำต้นสีเขียวอวบน้ำ สูง 30-50 ซม.
ใบ ใบเดี่ยว ลักษณะเป็นรูปมนรี หรือรูปไข่กลับ ปลายมนหรือแหลมสั้น หรือปลายโตแหลม โคนสอบแหลม เนื้อใบหนา ขอบใบเรียบ ท้องใบและหลังใบเรียบ ใบสีเขียวอมเหลืองเป็นมัน ก้านใบชูตั้ง ใบกว้าง 2.5-3.5 ซม. ยาว 5-7.5 นิ้ว
ดอก ดอกเป็นช่ออยู่ที่ส่วนยอดหรือปลายกิ่ง ดอกมีขนาดเล็กสีชมพู ดอกบานเต็มที่ประมาณ 6 มม. มีอยู่ 5 กลีบ สีม่วงแดง กลีบเลี้ยงมี 2 กลีบร่วงง่าย เกสรกลางดอกมี 10 อัน คล้ายดาว เกสรสีเหลืองยื่นยาวออกจากกลีบดอกคล้ายชบา ก้านดอกยาว
ผล ขนาดเล็กกลม โตประมาณ 3 มม. ผลสีแดงมีเมล็ดอยู่ภายในสีดำ
หัว ลักษณะคล้ายโสมคน
ส่วนที่ใช้บริโภค ยอดอ่อน ใบอ่อน






#5
ไม้พุ่ม / พุดน้อย รหัส 7-34190-001- 346
22 มิถุนายน 2013, 11:12:37 ก่อนเที่ยง
ชื่อพื้นบ้านอีสาน     พริกผี  พริกนายพราน   
ชื่อทั่วไป     พุดน้อย
ชื่อวิทยาศาสตร์  Tabernaemontana bufalina Lour.
วงศ์   APOCYNACEAE
ประเภทไม้พุ่ม
ลักษณะวิสัย
พุดน้อยเป็นไม้พุ่มขนาดเล็กมีความสูงประมาณ 50 ซม. ลำค้นเกลี้ยงมียางขาว ใบ รูปขอบขนานแคบๆ กว้าง 1-2.5 ซม. ยาว 2-10 ซม. ปลายใบยื่นเป็นหางยาว ปลายสุดมน โคนใบเป็นมุม เนื้อใบกระด้าง เส้นใบเล็ก 7-9 คู่ ก้านใบยาว 4-8 มม.  ด้านบนเป็นร่อง ดอก สีขาว ออกเป็นช่อ ยาว 2-4 ซม. ก้านช่อยาว 1-3  ซม. ช่อละ 3-4 ดอก ก้านดอกยาว 8-10 มม. กลีบรองกลีบดอก 5 กลีบ ติดกันเป็นท่อสั้นๆรูประฆัง ปลายแยกเป็นกลีบรูปไข่ปลายแหลม  มีต่อมที่โคนกลีบ กลีบดอก 5 กลีบ เชือมติดกันเป็นหลอดเล็กๆ  ยาวประมาณ 8 มม. ปลายแยกเป็นกลีบรูปขอบขนาน ปลายมน ยาวประมาณ 3 มม. เกสรผู้ 5 อัน ก้านเกสรส้นมาก ติดกับท่อด้านใน อัปเรณูยาวประมาณ 2 มม. ปลายแหลม รังไข่ 2 ช่อง ยากจากกัน ผล ออกเป็นคู่ๆ กว้าง 5-8 ซม. ฝักโคนกลีบเล็กคล้ายก้าน ยาว 1-2 มม. ที่ปลายจะมี งอยยาว 3-8 มม. เปลือกเกลี้ยง สีน้ำตาล แก่จัดแตกเป็น 2 ซีก มี 1-4 เมล็ด ยาว 6 มม.
ประโยชน์ต้น เป็นยาแก้ไข้ แก้ร้อนใน ดับพิษร้อน ราก ใช้แก้ลม