• Welcome to งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน โรงเรียนวารินชำราบ สพม. เขต 29.
 

ข่าว:

พืชพรรณต่างๆ มีภาพประกอบ และจัดเป็นหมวดหมู่ตามลักษณะวิสัย ค้นหาได้ง่าย

Main Menu
Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - ปริญญาพร บุสภาค

#1
ไม้พุ่ม / เหงือกปลาหมอ 7-34190-001-185
22 มิถุนายน 2013, 10:54:22 ก่อนเที่ยง
เหงือกปลาหมอ 7-34190-001-185 
ชื่อวิทยาศาสตร์ :  Acanthus ebracteatus  Vahl
ชื่อพ้อง : Acanthus ilicifolius  L.
ชื่อสามัญ :   Sea holly
ชื่อวงศ์ :   ACANTHACEAE
ชื่ออื่น :  แก้มหมอ แก้มหมอเล จะเกร็ง นางเกร็ง อีเกร็ง เหงือกปลาหมอน้ำเงิน
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : เป็นไม้พุ่มขนาดกลาง สูง 1-2 เมตร ลำต้นและใบมีหนาม ใบหนามแข็งมีขอบเว้าและมีหนามแหลม ใบออกเป็นคู่ตรงข้ามกัน ดอกออกเป็นช่อตามยอด กลีบดอกสีขาวอมม่วง มี 4 กลีบแยกจากกัน ผลเป็นฝักสีน้ำตาล มี 4 เมล็ด ชอบขึ้นตามชายน้ำ ริมฝั่งคลองบริเวณปากแม่น้ำ
ส่วนที่ใช้ :  ต้น และใบ ทั้งสดและแห้ง  ราก เมล็ด
สรรพคุณ : ต้นทั้งสดและแห้ง - แก้แผลพุพอง น้ำเหลืองเสีย เป็นฝีบ่อยๆ
ใบ - เป็นยาประคบแก้ไขข้ออักเสบ แก้ปวดต่าง ๆ รักษาโรคผิวหนัง ขับน้ำเหลืองเสีย
ราก ขับเสมหะ บำรุงประสาท แก้ไอ แก้หืด
รักษามุตกิดระดูขาว
เมล็ด
- ปิดพอกฝี
- ต้มดื่มแก้ไอ ขับพยาธิ ขับน้ำเหลืองเสีย
วิธีและปริมาณที่ใช้ : ใช้ต้นและใบสด 3-4 กำมือ ล้างให้สะอาด นำมาสับ ต้มน้ำอาบแก้ผื่นคัน ใช้ติดต่อกัน 3-4 ครั้ง

#2
ไม้เลื้อย / ผักปลาบ 7-34190-001-184
22 มิถุนายน 2013, 10:51:09 ก่อนเที่ยง
ผักปลาบ 7-34190-001-184
ชื่อวงศ์ COMMELINACEAE
Commelina bengalensis Linn
(syn. C. prostrata Regal)
ชื่อสามัญ ผักปลาบ (ภาคกลาง) ผักปลาบ ใบกว้าง dayflower, wandering jew
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์และเกษตร เป็นพืชอายุปีเดียว ลำต้นอวบน้ำทอดเลื้อยไปตามพื้นดินปลายยอดชูตั้งขึ้น สูง 65-85 เซนติเมตร ลำต้นมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 2.1 – 3.5 มิลลิเมตร ใบเดี่ยวเรียงสลับรูปไข่ (ovate) หรือรูปรี (elliptic) กว้าง 1.0- 3.5 เซนติเมตร ยาว 1.7 – 8.0 เซนติเมตร โคนใบแผ่เป็นกาบหุ้มลำต้นยาว 0.8 – 1.6 เซนติเมตร ขอบใบมีขนครุย (ciliate) มีใบประดับสีเขียวหุ้มช่อดอก ตามลำต้นแผ่นใบทั้งสองด้านและ หลังใบประดับ (bract) จะมีขนละเอียดสั้นๆ ปกคลุมหนาแน่น ดอกแบบช่อกระจุก (cymose) ออกดอกตามปลายกิ่งหรือตามซอกใบ กลีบเลี้ยง 3 กลีบ สีเขียวอ่อนใส กลีบดอกสีม่วงแกมน้ำเงิน อับเกสรเพศผู้มี 6 อัน ซึ่ง 4 อัน เป็นหมันจะมีสีเหลืองสด อีก 2 อันไม่เป็นหมันจะมีสีม่วงเข้ม ยอดและก้านเกสรเพศเมียและก้านชูอับเรณูสีม่วงอ่อน พบออกดอกช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายน
แหล่งที่พบและเก็บรวบรวมพันธุ์ พบขึ้นในที่ลุ่มชื้นทั่วไป เช่น อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา (PC 516) อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน (LP 225) ความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 330 – 357 เมตร
คุณค่าทางอาหาร มีโปรตีน ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ ฟอสฟอรัส 0.3 เปอร์เซ็นต์ โพแทสเซียม 3.9 เปอร์เซ็นต์ แคลเซียม 1.1 เปอร์เซ็นต์ เหล็ก 573 พีพีเอ็ม ADF 41 เปอร์เซ็นต์ NDF 50 เปอร์เซ็นต์ ไนเตรท 645 พีพีเอ็ม ไม่พบไนไนไตรท์ และออกซาลิกแอซิด
การใช้ประโยชน์ เป็นอาหารสัตว์ เช่น โค กระบือ เป็นสมุนไพร ยาพื้นบ้านอีสานใช้ส่วนเหนือดิน เป็นยาเย็นแช่น้ำอาบ แก้ไข้ ตำรายาไทยใช้ทั้งต้น ช่วยเจริญอาหาร เป็นยาระบาย แก้โรคเรื้อน แก้ปวดเมื่อถ่ายปัสสาวะ สารสกัดแอลกอฮอล์จากใบที่ทำให้เป็นกรดมี ฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย Pseudomonas aeruginosa, Staphylococcus albus และมีฤทธิ์แรงมากต่อเชื้อ Escherichia coli, Klebsiella pneumoniae, Proteus vulgalis, Salmonella gallinarum และเชื้อยีสต์ Candida albicans (จิรายุพิน และคณะ


#3
ไม้เลื้อย / คัดเค้าหนู 7-34190-001-183
22 มิถุนายน 2013, 10:40:43 ก่อนเที่ยง
คัดเค้าหนู 7-34190-001-183
ชื่อวิทยาศาสตร์ Oxyceros  Horridus  Lour
ชื่อวงศ์: RUBIACEAE
ชื่อท้องถิ่น :คัดเค้าหมู , คัดเค้าหนู , ตังขุย , ตังผี ,  ตังหยู มะกั่งหผี ,หูชะลวง  , ลิเถือน , หนามลิดเค้า  , พระยาเท้าเอา
ลักษณะวิสัย : ไม้เลื้อย
ลักษณะทั่วไป: มีลำต้นแข็งแรง  อายุยืน  ตามลำต้นจะมีข้อ  ปล้อง และมีหนามออกมาสองข้างใบมีผิวเกลี้ยง ดอกมีสีขาว  และหอมมากจะชอบบานตอนเย็น
ใบ :  ใบมีผิวที่เกลี้ยง  เป็นมัน  ใบมีขนาด 6 นิ้ว
ดอก  : มีดอกสีขาว  หอมมาก  ออกเป็นกระจุกตามซอกใบและปลายกิ่ง บานตอนเย็น  ดอกจะออกเป็นช่อ  มีเส้นผ่านศูนย์กลางช่อดอก 4 - 7 ช.ม.ช่อประมาณ 12 ดอก  โคนกลีบดอกเชื่อมกันเป็นหลอดยาว 1ช.ม.  ปลายแยกเป็น 5 กลีบ  เมื่อดอกบาน มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.5 - 2 ช.ม. 
เมื่อแรกบานมีสีขาวบริสุทธิ์  ต่อมาเปลี่ยนเป็นสีขาวอมเหลือง และสีเหลืองมีก้านดอกที่แข็งแรงมาก ฤดูดอกบานเต็มต้นในเดือนกุมภาพันธ์ - พฤษภาคม
ผล  : ผลออกเป็นกลุ่ม ผลย่อยรูปกลมรี  เส้นผ่านศูนย์กลาง 1 ช.ม. ผลอ่อนมีสีเขียว เมื่อแก่จะกลายเป็นสีดำ
ประโยชน์: ปลูกเป็นไม้ประดับ  เลื้อยเป็นซุ้ม หรือเลื้อยตามรั้ว ใช้ป้องกันขโมยได้ดี เพราะมีหนามแหลม  มีดอกดก  มีกลิ่นหอมชื่นใจ


#4
ไม้ล้มลุก / กล้วยบัวสีส้ม 7-34190-001-182
22 มิถุนายน 2013, 10:11:46 ก่อนเที่ยง
กล้วยบัวสีส้ม 7-34190-001-182 
ชื่อสามัญ -                 
ชื่อพ้อง กล้วยบัว
ชื่อวิทยาศาสตร์ Musa laterrita Roxb.
แหล่งที่พบ  พบได้ทั่วไป โดยเฉพาะแม่ฮ่องสอน
ลักษณะทั่วไป
ต้น ลำต้นสูง 1.5 - 2  เมตร ต้นมีขนาดเล็ก ต่างจากกล้วยบัวสีชมพู ที่การแตกกอกล้วยบัวสีส้ม มีการแตกกอ ที่กระจัดกระจาย
ใบ ก้านใบมีสีเขียว ใบสีเขียว
ดอก ช่อดอกชูตั้งขึ้น ก้านช่อดอกไม่มีขน ใบประดับรูปร่างคล้ายกลีบดอกบัว สีส้ม
ผล ผลมีสีเขียว ผิวเรียบ ขนาดเล็ก
การใช้ประโยชน์ ใช้ปลูกเป็นไม้ประดับ



#5
ไม้พุ่ม / ฝางเสน 7-34190-001-181
22 มิถุนายน 2013, 09:52:41 ก่อนเที่ยง
ฝางเสน 7-34190-001-181
ชื่อสามัญ Sappan Tree
ชื่อวิทยาศาสตร์ Caesalpinia sappan Linn.
ชื่อวงศ์ Leguminosae
ไม้พุ่มกึ่งเลื้อยขนาดใหญ่ แตกกิ่งต่ำ หรือยืนต้นสูงได้ประมาณ 10 ม. ลำต้นมีหนามโค้ง หูใบขนาดเล็ก หลุดร่วงง่าย ใบประกอบแบบขนนก 2 ชั้น เรียงสลับ แกนกลางใบยาว 15-40 ซม. ใบประกอบย่อยมี 8-18 ใบ ใบย่อย 6-20 คู่ เรียงตรงข้าม เกือบไร้ก้าน แผ่นใบรูปขอบขนาน ยาว 1-2 ซม. ปลายใบกลม เว้าตื้น โคนใบเบี้ยว ดอกออกเป็นช่อกระจะ ออกตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ยาว 15-30 ซม. มีหนามทั่วไป กลีบประดับรูปใบหอก ยาวประมาณ 0.6 ซม. ดอกจำนวนมาก ดอกยาวประมาณ 1.8 ซม. ก้านดอกยาว 1.5-2 ซม. มีขนสั้นนุ่ม กลีบดอกและกลีบเลี้ยงมีจำนวนอย่างละ 5 กลีบ ขนาดไม่เท่ากัน กลีบเลี้ยงสีเขียว กลีบล่างโค้งและใหญ่กว่ากลีบอื่น กลีบดอกสีเหลือง กลีบกลาง (standard) มีก้านกลีบ ขนาดเล็กกว่ากลีบข้าง มีเส้นร่างแหสีแดง เกสรเพศผู้ 10 อัน แยกอิสระต่อกัน ยาวประมาณ 1.2 ซม. ก้านเกสรมีขน รังไข่มีขน ก้านเกสรเพศเมียเรียวยาว ผลเป็นฝักแบน สีน้ำตาล แข็ง รูปขอบขนาน กว้าง เป็นเหลี่ยมค่อนไปทางด้านบน ยาว 7-12 ซม. ไร้ก้าน เมล็ดมี 2-4 เมล็ด รูปรี แบน ยาวประมาณ 1.8 ซม. สี เขียวอมน้ำตาล
เนื้อไม้ หรือ sappan-wood สีแดงเข้ม ใช้ย้อมผ้าให้สีแดง หรือทำสีทาตัวสำหรับงานเทศกาลในอินเดีย ในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญ และเป็นเครื่องบรรณาการอย่างหนึ่งที่ส่งไปถวายพระเจ้ากรุงจีน และเคยเป็นสินค้าที่ผูกขาดของรัฐอย่างหนึ่ง นอกจากนี้แก่นฝางยังมีฤทธิ์
ฝาด ใช้รักษาโรคท้องร่วงและโรคผิวหนังบางชนิดได้
ส่วนที่ใช้เป็นยาคือ เนื้อไม้และแก่น
แก่นฝาง (Sappan wood) มีสารสีชมพูส้มถึงแดง (ขึ้นกับปริมาณ) ชื่อ Brazilin แก่นฝางมีรสขื่นขม ฝาด ใช้ต้มน้ำกินเป็นยาบำรุงโลหิตสตรี แก้ปอด พิการ ขับหนอง ขับเสมหะ ทำโลหิตให้เย็น แก้โรคหืด แพทย์ชนบทใช้ต้มน้ำกินแก้อาการท้องร่วง ธาตุพิการ ร้อนใน แก้โลหิตออกทางทวารหนักและทวารเบา เนื้อไม้ใช้แก้ท้องเสีย แก้บิด ทำให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ แก้ไข้ รักษาโรคทั่วไป
นอกจากนี้ส่วนเปลือก ลำต้นและเนื้อไม้สามารถใช้ต้มรับประทานรักษาวัณโรค ท้องเสียและอาการอักเสบในลำไส้ เป็นยาฝาดสมานและรักษาแผล
   จากข้อมูลรายงานการทดลองต่างๆ ที่มีอยู่ไม่พบข้อมูลการยับยั้งเชือ้ MRSA ของฝาง ทราบแต่เพียงว่าสาร Brazilin ในแก่นฝางที่กล่าวถึงข้างต้นนั้น เมื่อผ่านการต้ม สาร Brazilin จะเปลี่ยนเป็นสาร Brazilein ซึ่งมีสีแดงซึ่งสมัยก่อนใช้ในการย้อมผ้า แต่งสีขนมและทำน้ำยาอุทัย
คุณสมบัติทางยาของเนื้อไม้และเปลือกไม้ฝางเกิดจากกลุ่มของสาร phenol ที่มีชื่อเรียกว่า homoisoflavonoids ลำต้นและใบมีสาร alkaloid และ phytosterol อยู่ในปริมาณมาก