• Welcome to งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน โรงเรียนวารินชำราบ สพม. เขต 29.
 

ข่าว:

โรงเรียนได้รวบรวม พืชพรรณ นานาชนิดกว่า 600 ชนิด ที่ถูกรวบรวม เรียบเรียงไว้อย่างเป็นระบบ สืบค้นได้ง่าย

Main Menu

มังคุด รหัส 7-34190-001-400

เริ่มโดย นางสาวศิริรัตน์ จำปางาม, 22 มิถุนายน 2013, 13:48:40 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

นางสาวศิริรัตน์ จำปางาม

400  มังคุด Garcinia mangostana L.
ชื่อวิทยาศาสตร์     Garcinia mangostana L.
ชื่อวงศ์     GUTTIFERAE
ชื่อสามัญ  Mangosteen
ชื่อท้องถิ่น -
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ต้น เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ไม่ผลัดใบ สูง 10-12 เมตร ทุกส่วนมียางสีเหลือง กิ่งก้านแตกแขนงต่ำตั้งแต่โคนต้น ทรงต้นเป็นแบบกรวยคว่ำหรือทรงปิรามิด ทรงพุ่มหนาทึบ กิ่งแตกออกเป็นคู่แบบสลับกิ่งอ่อนเป็นเหลี่ยม ผิวเปลือกลำต้นมีสีน้ำตาลคล้ำ
ใบ ใบเดี่ยวออกเป็นคู่ตรงข้ามกัน ใบมีรูปร่างคล้ายใบพายหรือรูปรีมีขนาดใหญ่ กว้าง 6-11 ซม. ยาว 12-25 ซม. เนื้อใบหนาปลายใบแหลมก้านใบสั้นไม่มีขน บริเวณซอกใบเป็นที่อยู่ของตาข้าง
ลักษณะของพืช
มังคุดเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ใบใหญ่
หนาและแข็งดอกออกเป็นช่อแยกได้เป็น ทั้งดอกตัวผู้ละดอกตัวเมีย ดอกตัวผู้จะเป็นสีเหลืองอมแดงหรือ
ม่วง ส่วนดอกตัวเมียจะเป็นสีชมพู
การปลูก
นิยมขยายพันธุ์ด้วยกิ่งตอน ควรเริ่มตอนกิ่งในฤดูฝน และ
กิ่งตอนจะออกรากภายใน 1-1/2 เดือน กล้าไม้มังคุดจะต้องมีอายุอย่างน้อย 3 ปี จึง
จะเอามาปลูกลงไปในหลุมได้ การปลูกในระยะแรกควรปลูกโดยการให้น้ำ อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ต้นมังคุด จะได้ผลเมื่อมีอายุ 10 ปี
ส่วนที่ใช้เป็นยา เปลือกผลแห้ง
รสและสรรพคุณยาไทย
รสฝาด แก้ท้องเสีย บิด มูกเลือด ในชนบทมักจะใช้น้ำ
ต้มเปลือกมังคุดชะล้างแผลจะช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ 
เปลือกผลมังคุดมีสาร"แทนนิน"เป็นจำนวนมาก มีฤทธิ์แก้อาการ ท้องเดินได้ดี นอกจากนี้ในเปลือกมังคุดออกฤทธิ์สมานแผลได้ดีมาก ทั้งยังฆ่าเชื่อแบคทีเรียได้อีกด้วย
โดยเฉพาะเชื้อที่ทำให้เกิดหนอง และมีฤทธิ์ลดอาการอักเสบลงได้ดี กองวิจัยทางแพทย์ กรมวิทยาศาสตร์
การแพทย์ ได้ศึกษารายงานว่าไม่มีพิษเฉียบพลัน แต่ควรระวังเรื่องขนานของการใช้ เพราะสารที่เปลือกมังคุดมี
ฤทธิ์กดประสาทส่วนกลางและเพิ่มความดันเลือดได้
วิธีใช้
เปลือกมังคุดใช้เป็นยารักษา อาการท้องเสีย ใช้เปลือกที่ตากแห้งต้ม
กับน้ำปูนใส่หรือฝนกับน้ำดื่มได้อาการเป็นบิด (ปวดเบ่ง มีมูก และอาจมีเลือดออก) ใช้เปลือกผลแห้ง
ประมาณครึ่งผล (4 กรัม) ย่างไฟให้เกรียมฝนกับน้ำปูนใส่ประมาณครึ่งแก้วดื่มทุก ชั่วโมง
คุณค่าทางอาหาร
มังคุดเป็นผลไม้ เนื่อมังคุดมีเกลือแร่และวิตามินมากมายที่เดียว
ผล ลักษณะกลมมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 3.5-7 ซม. หรือมากกว่า ผิวเปลือกเรียบไม่มีหนาม ผลอ่อนมีสีเขียว เมื่อแก่จะเริ่มมีลายสีแดงๆ หรือสีม่วงแดงชาวสวนเรียกว่า "สายเลือด" จากนั้นจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงแดงจนถึงดำภายใน 2-3 วัน เปลือกผลหนาและค่อนข้างแข็งมีสีม่วง เปลือกหนา 0.8-1.0 ซม. บริเวณเปลือกมีท่อน้ำยางซึ่งเป็นสารพวกแทนนิน มีรสฝาดซึ่งเป็นตัวช่วยลดการทำลายของแมลงได้ทางหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งแมลงวันทองไม่สามารถเข้าทำลายได้ ภายในผลมีเนื้อในนุ่มสีขาวนวล
เมล็ด เจริญมาจากก้านชูไข่ใน 1 ผล มีเมล็ด 2-3 เมล็ด สามารถตัดแบ่งเป็นชิ้นๆ ไปเพาะได้ แต่ละชิ้นได้ต้นกล้า 1 ต้น มีลักษณะเหมือนตัวแม่อายุการงอกของเมล็ดสั้นมาก เมื่อผ่าเอาเมล็ดออกมาจากผลแล้ว ถ้าไม่มีการเก็บรักษาผลที่ดีจะอยู่ได้ 2-3 วันเท่านั้น แต่ถ้ามีการเก็บรักษาที่ดีๆ อาจอยู่ได้นานถึง 30 วัน
ลักษณะพิเศษ มีสรรพคุณทางยา
เปลือกผล ใช้เปลือกผล บดต้มหรือชงแก้ท้องร่วง แก้บิดมูกเลือด แก้ท้องเสีย ผสมน้ำปูนทาสมานแผล แก้แผลเน่าเปื่อยพุพอง แผลมีน้ำหนอง เปลือกผลยังมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งทำให้เกิดหนอง โดยฆ่าได้ทั้งสายพันธุ์ปกติสายพันธุ์ดื้อยา "แพนนิซิลิน" มีฤทธิ์ต้านเชื้อ ต้านโรคผิวหนัง ใช้รักษาแผลที่เป็นหนองสิวช่วยลดร่องรอยด่างดำ เนื้อหุ้มเมล็ด แก้ร้อนใน
ยางจากผล ใช้ยางสดสีเหลืองใช้เป็นยาแก้บิดท้องร่วง และช่วยสมานแผลได้ดี น้ำต้มเปลือกผลมังคุดมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุอาการท้องเสียสารสกัดเปลือกมังคุดมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุของการเกิดหนอง  ครีม GM1 ประกอบด้วยสารสกัดจากมังคุด มีคุณสมบัติใช้ในการรักษาแผล แผลติดเชื้ออักเสบ และแผลในผู้ป่วยเบาหวาน
ดอก สีชมพูเรื่อๆ ออกเป็นดอกเดี่ยว หรือออกเป็นคู่ ตามบริเวณปลายกิ่งลักษณะของดอกเป็นดอกกระเหย แต่เกสรตัวผู้เป็นหมันไม่สามารถผสมเกสรได้ มีกลีบเลี้ยงและกลีบดอกอย่างละ 4 กลีบ ดอกมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 5-6 ซม. กลีบเลี้ยงมีสีเขียวอมเหลือง ก้านดอกใหญ่และสั้น ความยาว 1.5-2.0 ซม. มีรังไข่แบบ superior ovary