ผู้เขียน หัวข้อ: ส่งงาน ความหมาย CMS LMS LCMS  (อ่าน 1296 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

watchara53

  • บุคคลทั่วไป
ส่งงาน ความหมาย CMS LMS LCMS
« เมื่อ: วันที่ 26 พฤษภาคม 2010, 09:41:12 »
ความ หมาย ความแตกต่างของCMS/ LMS /LCMS
CMS คืออะไร

ความหมาย ของ Content Management System (CMS)

ระบบการจัดการเนื้อหาของ เว็บไซต์(Content Management System : CMS) คือ ระบบที่พัฒนา คิดค้นขึ้น มาเพื่อช่วยลดทรัพยากรในการพัฒนา(Development) และบริหาร(Management)เว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกำลังคน ระยะเวลา และเงินทอง ที่ใช้ใน การสร้างและควบคุมดูแลไซต์โดยส่วนใหญ่แล้ว มักจะนำเอา ภาษาสคริปต์(Script languages) ต่างๆมาใช้ เพื่อให้ วิธีการทำงานเป็นแบบอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็น PHP, Perl, ASP, Python หรือภาษา อื่นๆ(แล้วแต่ความถนัดของผู้พัฒนา) ซึ่งมักต้อง ใช้ควบคู่กันกับโปรแกรมเว็บเซิร์ฟเวอร์(เช่น Apache) และดาต้าเบสเซิร์ฟเวอร์(เช่น MySQL)

ลักษณะเด่นของ CMS ก็คือ มีส่วนของ Administration panel(เมนูผู้ควบคุมระบบ) ที่ใช้ใน การบริหารจัดการส่วนการทำงานต่างๆในเว็บไซต์ ทำให้ สามารถบริหารจัดการเนื้อหาได้อย่างรวดเร็ว และเน้นที่การ จัดการระบบผ่านเว็บ(Web interface) ในลักษณะ รูปแบบของ ระบบเว็บท่า(Portal Systems) โดย ตัวอย่างของฟังก์ชันการทำงาน ได้แก่ การนำเสนอบทความ(Articles), เว็บไดเรคทอ รี(Web directory), เผยแพร่ข่าวสารต่างๆ(News), หัวข้อข่าว(Headline), รายงานสภาพ ดินฟ้าอากาศ(Weather), ข้อมูลข่าว สารที่น่าสนใจ(Informations), ถาม/ตอบ ปัญหา(FAQs), ห้องสนทนา(Chat), กระดานข่าว(Forums), การจัดการ ไฟล์ในส่วนดาวน์โหลด(Downloads), แบบสอบถาม(Polls), ข้อมูล สถิติต่างๆ(Statistics) และส่วน อื่นๆอีกมากมาย ที่สามารถเพิ่มเติม ดัดแปลง แก้ไขแล้ว ประยุกต์นำมาใช้งานให้เหมาะสมตามแต่รูปแบบและประเภทของเว็บไซต์นั้นๆ

ตัวอย่างของเว็บที่สร้างจาก CMS

·Slashdot=>พัฒนาด้วย Perl
Zope=>พัฒนาด้วย Python
PHP-Nuke =>พัฒนาด้วย PHP
Joomla =>พัฒนาด้วย PHP ได้รับความนิยมมากในปัจุบัน


การ ประยุกต์ใช้ CMS
ระบบ CMS สามารถนำมาประยุกต์ในงานต่างๆ หลากหลาย ตัวอย่างการนำซอฟต์แวร์ CMS มา
ประยุกต์ใช้งาน อาทิเช่น
>> การนำ CMS มาใช้ในการส ร้างเว็บไซต์สถาบันการศึกษา ธุรกิจบันเทิง หนังสือพิมพ์ การเงิน การ
ธนาคาร หุ้นและการลงทุน อสังหาริมทรัพย์ งานบุคคล งานประมูล สถานที่ ท่องเที่ยว งานให้บริการลูกค้า
>> การนำ CMS มาใช้ใน หน่วยงานของรัฐ อาทิเช่น งานข่าว งานประชาสัมพันธ์ การนำเสนองานต่างๆ
ขององค์กร
>> การใช้ CMS สร้างไซต์ ส่วนตัว ชมรม สมาคม สมาพันธ์ โดยวิธีการแบ่งงานกันทำ เป็นส่วนๆ ทำให้
เกิดความสามัคคี ทำให้มีการ ทำงานเป็นทีมเวิร์คมากยิ่งขึ้น
>> การนำ CMS มาใช้ในการส ร้างเว็บไซต์สำหรับธุรกิจ SME โดยเฉพาะสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่ง ผลิตภัณฑ์
หรือ OTOP กำลังได้รับความนิยมสูง
>> การนำ CMS มาใช้แทน โปรแกรมลิขสิทธิ์ อื่นๆ เพื่อ ประหยัดค่าใช้จ่าย และง่ายต่อการพัฒนา
>> การใช้ CMS ทำเป็น Intranet Web Site สร้าง เว็บไซต์ใช้ภายในองค์กร

ที่มาจากhttp://www.proline.co.th/forum/index.php?topic=147.0

การนำระบบ LMS ไปประยุกต์ใช้งาน
ระบบ LMS สามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้ อย่างหลากหลายอาทิ สถาบันการ ศึกษา ศูนย์ฝึกอบรม หน่วยงานราชการ บริษัทเอกชน โดยในการนำ ไปใช้งานผู้ใช้สามารถ ปรับการใช้งานให้เหมาะสมกับหน่วยงาน จุดประสงค์ หลักในการพัฒนาระบบขึ้นมาก็เพื่อสร้างระบบการเรียนรู้ใช้งานในหน่วยงานทั้ง ระบบ E-Learning หรือระบบ Knowledge Management(KM)

ผู้ใช้งานในระบบ LMS
สำหรับผู้ใช้งานในระบบ LMS นั้นสามารถที่จะแบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม คือ
• กลุ่มผู้บริหารระบบ (Administrator) ทำหน้าที่ใน การติดตั้งระบบ LMS การกำหนดค่าเริ่มต้นของระบบ การสำรองฐานข้อมูล การกำหนด สิทธิ์การเป็นผู้สอน
• กลุ่มอาจารย์หรือผู้สร้างเนื้อหาการเรียน (Instructor / Teacher) : ทำหน้าที่ ในการเพิ่มเนื้อหา บทเรียนต่างๆ เข้าระบบ อาทิ ข้อมูลรายวิชา ใบเนื้อหา เอกสารประกอบการสอน การประเมินผู้เรียนโดยใช้ข้อสอบ ปรนัย อัตนัย การให้ คะแนน ตรวจสอบกิจกรรมผู้เรียน ตอบคำถาม และสนทนากับนักเรียน
• กลุ่มผู้เรียน(Student/Guest) : หมายถึงนัก เรียน นักศึกษา ที่สมัคร เข้าเรียนตามหัวข้อต่าง ๆ รวมทั้งการทำแบบฝึกหัด ตามที่ได้ รับมอบหมายจากผู้สอน โดยอาจารย์สามารถทำการแบ่งกลุ่มผู้เรียนได้ และสามารถ ตั้งรหัสผ่านในการเข้าเรียนแต่ละวิชาได้

มาตรฐานระบบ E-Learning
กระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา(DOD) ได้ศึกษาปัญหาของความไม่เข้ากัน (Incompatibility) ของระบบอี เลิร์นนิ่ง และเนื้อหา วิชา ที่พัฒนาแตกต่าง แพลตฟอร์มกัน ไม่สามารถใช้ร่วมกันได้ ทางกระทรวง กลาโหมสหรัฐฯ จึงรวบรวมข้อกำหนด ที่พัฒนาก่อนหน้ามาเข้าด้วยกัน ทั้งของ IMS และ AICC เพื่อที่จะ ออกเป็นข้อกำหนด อีเลิร์นนิ่งกลาง และมีการ ตั้งหน่วยงานร่วมมือกันระหว่างกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หน่วยงานรัฐบาล ภาคเอกชน และภาคการศึกษา จัดตั้งสถาบันที่เรียกว่า ADL (Advanced Distributed Learning) เมื่อปี 1997 และได้ออก ข้อกำหนดแรกในเวอร์ชั่น 1.0 เมื่อปี 2000 แต่เวอร์ ชั่นที่ประสบความสำเร็จเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปคือ ข้อกำหนด SCORM Version 1.2 ซึ่งออก เมื่อเดือนตุลาคมปี 2001 ดังนั้นในการสร้างระบบ LMS ขึ้นมาไม่ ว่าจะเป็นการพัฒนาระบบขึ้นมาใช้งานเอง ซื้อจากบริษัทเอกชน หรือใช้ ซอฟต์แวร์สำเร็จรูปประเภท Open Source จำเป็นต้อง ยึดตามมาตรฐานกลางคือ SCORM (Sharable Content Object Reference Model)

คำ ศัพท์ที่เกี่ยวข้อง
• CAI (Computer Assisted Instruction) คอมพิวเตอร์ช่วยสอน
• CBT (Computer Based Training) คอมพิวเตอร์ช่วยในการอบรม
• WBI (Web Based Instruction) เว็บช่วยสอน
• WBT (Web Based Training) เว็บช่วยในการอบรม
• CMS (Content Management System) ระบบบริหารจัดการเนื้อหาบนเว็บไซ ต์
•LMS (Learning Management System) ระบบบริหารจัดการการเรียนการสอน ออนไลน์
• LCMS (Learning Management System) CMS+LMS ระบบบริหาร จัดการจัดการเนื้อหาและการเรียนการสอนออนไลน์
• KMS (Knowledge Management System) ระบบบริหารจัดการองค์ความรู้ใน องค์กร

http://faker-programmer.blogspot.com/2009/09/cms-content-management-system.html

LCMS : Learning Content Management System

Learning Content management system

คือระบบจัดการจัดการ เนื้อหาการเรียนรู้ เป็นระบบที่มีการบูรณาการในส่วนเครื่องมือการสร้างและจัดการเนื้อหาในระบบ ซึ่งเป็นระบบที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้สอนและผู้เรียนในการจัดการสอน ช่วยให้ผู้สอนพัฒนาเนื้อหาออนไลน์เพื่อการนำเสนอในรูปแบบที่เป็นโครงสร้าง สามารถปรับเปลี่ยนได้ ช่วยให้ผู้เรียนเข้าสู่เนื้อหาได้หลากหลายขึ้น

ที่มาของระบบ (Learning Content management system )

LCMS ระบบการจัดการเนื้อหาการเรียน พัฒนามาจากระบบการเรียนรู้ 2 ระบบคือ

1 ระบบการจัดการเรียนรู้ LMS (Learning management system ) ซึ่ง สามารถในการนำเนื้อหาการเรียนรู้มารวมกันกลุ่มๆ แล้วนำเข้าสู่ระบบ

2 ระบบการจัดการเนื้อหา CMS ( Content management system ) จุดเด่นคือ สามารถสร้างและจัดเก็บข้อมูล

ความแตกต่างของLMS และ LCMS

LMS มุ่งเน้นการจัดการเกี่ยวกับผู้เรียน กิจกรรมของผู้เรียน ติดตามความก้าวหน้าและประเมินความสามารถของผู้เรียน

LCMS มุ่งเน้นการนำเสนอเนื้อหา การนำเนื้อหากลับมาใช้ใหม่ การจัดการและการปรับปรุงเนื้อหาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

สรุป

•LCMS ช่วยให้สามารถเรียนรู้ได้อย่างมี ประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากเนื้อหาออเป็นส่วนย่อยๆ อย่าง Learning object แล้วนำมาประกอบขึ้นใหม่เป็นเนื้อหาเหมาะสมกับความต้องการ ของผู้เรียนแต่ละบุคคล กล่าวคือส่งความรู้ในปริมาณที่เพียงพอให้ถูกบุคคลทันเวลาเหมาะสมกับการใช้ งาน ก็คือ การทำงานของระบบจัดการเนื้อหาการเรียนรู้
จาก CMS ถึง LMS และ LCMS

ทำความรู้จัก Open source กับ CMS กันมาพอ สมควรแล้ว วันนี้มาทักทายกับเจ้า LMS และ LCMS กันอีกนิดก็ แล้วกันนะคะ (โอย...อะไร มันจะมากมายขนาดนี้) อย่าเพิ่ง เบื่อกันไปก่อนนะคะ เพราะเจ้า พวกนี้นี่แหละ ที่จะทำให้เราเรียนรู้ได้ง่ายและสะดวกสบายขึ้น

LMS ย่อมาจาก Learning Management System เป็นระบบที่ ใช้บริหารจัดการการเรียนรู้ที่อำนวยความสะดวกในการจัดกลุ่มเนื้อหาและ กิจกรรมการเรียนรู้ การสื่อสารโต้ตอบระหว่างผู้สอน (Instructor/Teacher) กับผู้ เรียน(Student) รวมทั้งการ สร้างแบบทดสอบ การทดสอบและการประเมินผลบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยโปรแกรมที่ใช้สร้างระบบ LMS ในปัจจุบัน มีให้เลือกอยู่ 2 ลักษณะคือ

1.ซอฟต์แวร์ฟรี (Open Source LMS) ที่มี ลิขสิทธิ์แบบ GPL เช่น Claroline (www.claroline.net), LearnSquare (www.learnsquare.com), VClasswww.vclass.net), Sakai (www.sakaiproject.org), ILIAS (http://www.ilias.de)

ความ หมาย LMS LCMS และ CMS
ความหมายของ CMS : Content Management System

ที่มา http://www.cmsthailand.com/a/node/4

CMS ย่อมาจาก Content Management System เป็นระบบที่นำมาช่วยในการสร้างและบริหารเว็บไซต์แบบสำเร็จรูป โดยในการใช้งาน CMS นั้นผู้ใช้งานแทบไม่ต้องมีความรู้ในด้านการเขียนโปรแกรม ก็สามารถสร้างเว็บไซต์ได้ โดยที่ตัว CMS เองมีโปรแกรมประยุกต์ แบบพร้อมใช้งานอยู่ภายในมากมายอาทิ ระบบจัดการบทความและข่าวสาร(News and Story) ระบบจัดการบทวิจารณ์ (Review), ระบบจัดการสมาชิก(Mamber) ระบบสืบค้นข้อมูล(Search) ระบบจัดการไฟล์ดาวน์โหลด(Download), ระบบจัดการป้ายโฆษณา(Banner), ระบบการวิเคราะห์และตรวจสอบสถิติความนิยมในเว็บไซต์ (Analysis, Tracking and Statistics)


ความหมายของระบบการจัดการเรียนการสอน Learning Management System

ที่มา http://student.nu.ac.th/supaporn/LMS.htm

LMS ว่าเป็นคำที่ย่อมาจาก Learning Management System หรือระบบการจัดการเรียนรู้ เป็นซอฟต์แวร์ที่ทำหน้าที่บริหารจัดการเรียนการสอนผ่านเว็บ จะประกอบด้วยเครื่องมืออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้สอน ผู้เรียน ผู้ดูแลระบบ โดยที่ผู้สอนนำเนื้อหาและสื่อการสอนขึ้นเว็บไซต์รายวิชาตามที่ได้ขอให้ระบบ จัดไว้ให้ได้โดยสะดวก ผู้เรียนเข้าถึงเนื้อหา กิจกรรมต่าง ๆ ได้โดยผ่านเว็บ ผู้สอนและผู้เรียนติดต่อ สื่อสารได้ผ่านทางเครื่องมือการสื่อสารที่ระบบจัดไว้ให้ เช่น ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ ห้องสนทนา กระดานถาม - ตอบ เป็นต้น นอกจากนั้นแล้วยังมีองค์ประกอบที่สำคัญ คือ การเก็บบันทึกข้อมูล กิจกรรมการเรียนของผู้เรียนไว้บนระบบเพื่อผู้สอนสามารถนำไปวิเคราะห์ ติดตามและประเมินผลการเรียนการสอนในรายวิชานั้นอย่างมีประสิทธิภาพ


ความ หมายของ Liquid Chromatography –Mass Spectrometry (LCMS)

ที่มา http://share.psu.ac.th/blog/pan5/12401

ด้วยความก้าวหน้าทางด้าน วิทยาศาสตร์และมีการพัฒนาเทคโนโลยีกันอย่างไม่หยุดยั้ง ทำให้เราต้องวิ่งตามเทคโนโลยีให้ทันด้วย สำหรับงานทางด้านวิทยาศาสตร์ก็มีการพัฒนากันอย่างรวดเร็ว เราจะได้ยินชื่อเครื่องมือใหม่ออกมาเรื่อยๆ เครื่องมือใหม่หลายๆอย่างได้ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อชดเชยข้อบกพร่องข้อเสียของ เครื่องมือเก่า เพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุด แต่โดยความคิดเห็นส่วนตัวแล้วทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีสองด้านเสมอ มีข้อดีและข้อเสียอยู่ในตัวจะมากหรือน้อยแตกต่างกันออกไป สำหรับเทคนิค LC-MS ก็เป็นเทคนิคการวิเคราะห์หนึ่งที่ได้ถูกพัฒนาขึ้นมานานพอสมควรเพราะปัจจุบัน ได้กลายเป็น LC-MS-MS ไปนานแล้ว แต่โดยหลักการแล้วก็เหมือนๆกัน ณ ตอนนี้สำหรับผู้เขียนเอง LC-MS เป็นเรื่องใกล้ตัวเลยอยากแบ่งบันความรู้อันเล็กน้อยแลกเปลี่ยนกับผู้อื่น บ้าง เพื่อที่จะได้เป็นต้นทุนสะสมในการพัฒนาสิ่งที่ดีกว่าอยู่เสมอ เมื่อ LC-MS เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเราก็ต้องทำความรู้จักกับ LC-MS ค่ะ LC-MS เป็นเทคนิคที่ควบคู่กันระหว่างการแยกสารด้วย LC โดยใช้หลักการแยกตามคุณสมบัติทางเคมีของสารแต่ละชนิด เช่น มีขั้ว (Polar) ไม่มีขั้ว (non polar) ความเป็นกรดเบส และอาศัยเฟส 2 เฟส คือ Stationary phase คือของแข็งที่บรรจุอยู่ในคอลัมน์ กับ Mobile phase คือตัวทำละลายเคลื่อนที่หรือตัวที่นำพาสารเข้าและออกจากคอลัมน์นั้นเอง หัวใจสำคัญของการแยกสารจะอาศัยหลักการ Like Dissolves Like คือถ้าชอบที่จะอยู่กับใครก็จะอยู่กันนานๆแต่ถ้าไม่ชอบจะอยู่ด้วยก็รีบ ถ่อยออกมาก่อนประมาณนั้น หมายความว่าถ้าสารที่เราต้องการวิเคราะห์ชอบจับกับ stationary phase มากกว่า mobile phase ก็จะออกมาจากคอลัมน์ช้ากว่าสารที่ชอบที่จะอยู่กับ mobile phase แล้ว Mass Spectrometerล่ะทำงานกันอย่างไร Mass Spectrometer โดยใช้หลักการทำให้สารเกิดการแตกตัวเป็นไอออนและวัดค่ามวลต่อประจุ (m/z) ดังนั้นเมื่อนำเครื่อง LC และ เครื่อง Mass Spectrometer มาใช้ร่วมกันจะต้องมีตัวค่อยเชื่อมความสัมพันธ์ให้สามารถทำงานร่วมกันได้ ซึ่งเรียกว่าระบบ Interfaceทำไมต้องมีตัวเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่าง LC กับ Mass Spectr
การแยกสารด้วย LC เป็นกระบวนการเกิดขึ้นภายใต้สภาวะบรรยากาศทั่วไป แต่กระบวนการทำงานของ Mass Spectrometer จะเกิดขึ้นภายใต้สภาวะที่เป็นสุญญากาศเท่านั้น ดังนั้นจึงมีระบบเชื่อมต่อระหว่างระบบของ LC และ Mass Spectrometer ซึ่งเรียกว่า Interface ระบบเชื่อมต่อ Interface ทำหน้าที่กำจัดตัวทำละลาย ทำให้สารที่ต้องการทดสอบอยู่ในรูปของประจุ ดังนั้นรูปแบบการ Transition จาก LC ไป Mass Spectrometer จะเปลี่ยนไปจากสถานะดังนี้ ระบบเชื่อมต่อ Interface ทำหน้าที่กำจัดตัวทำละลาย ทำให้สารที่ต้องการทดสอบอยู่ในรูปของประจุ ดังนั้นรูปแบบการ Transition จาก LC ไป Mass spectrometer จะเปลี่ยนไป
เขียนโดย สยุมภู เหมือนนิรุทธ์ ที่ 23:46

ความ แตกต่างระหว่าง LMS LCMS และ CMS
LMS มุ่งเน้นการจัดการเกี่ยวกับผู้เรียน กิจกรรมผู้เรียน ติดตามความก้าวหน้าและประเมินความสามารถของผู้เรียน
LCMS มุ่งเน้นการนำเสนอเนื้อหา นำเนื้อหากลับมาใช้ใหม่ การจัดการและปรับปรุงเนื้อหาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
CMS มุ่งเน้นการสร้างและบริหารเว็บไซต์แบบสำเร็จรูปโดยที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องมี ความรู้เรื่องการเขี่ยนโปรแกรม
ความแตก ต่างระหว่างLMSและLCMS
LMS มุ่งเน้นการจัดการเกี่ยวกับผู้เรียน กิจกรรมผู้เรียน ติดตามความก้าวหน้าและประเมินความสามารถของผู้เรียน
LCMS มุ่งเน้นการนำเสนอเนื้อหา นำเนื้อหากลับมาใช้ใหม่ การจัดการและปรับปรุงเนื้อหาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
CMS มุ่งเน้นการสร้างและบริหารเว็บไซต์แบบสำเร็จรูปโดยที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องมี ความรู้เรื่องการเขี่ยนโปรแกรม

ออฟไลน์ FrankJScott

  • นักศึกษา
  • ****
  • กระทู้: 176
  • สวัสดี
    • ดูรายละเอียด
High Rated Product Info
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: วันที่ 04 พฤศจิกายน 2023, 06:17:22 »
Please try Google before asking about Excellent Product Blog 2424255

ออฟไลน์ FrankJScott

  • นักศึกษา
  • ****
  • กระทู้: 176
  • สวัสดี
    • ดูรายละเอียด
Great Product Info
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: วันที่ 06 มกราคม 2024, 04:52:14 »
Please try Google before asking about High Rated Product Website da911f5